ท่าทีต่อการเผยแพร่ “คลิป” ของ นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ที่มาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ น่าสนใจ น่าศึกษา
ความน่าศึกษาอยู่ตรงที่ 1 เป็นความต่อเนื่องจากกรณีของ เบส อรพิมพ์
อาจเรียกได้ว่าเป็น “ลูกติดพัน”
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญก็คือ “ต้องเข้าไปดูแลทั้งหมด แต่ขอให้เกิดความชัดเจนก่อน หากมีการบิดเบือน ไม่ใช่เรื่องจริงก็ต้องดำเนินคดี”
ประเด็นนี้ต่างหากที่ “สำคัญ”
เป็นความสำคัญอันสะท้อนสภาพและลักษณะซึ่ง “แตกต่าง” ไปจากกรณีของ เบส อรพิมพ์
นั่นก็คือ เป็นเรื่องของ”ข้อเท็จจริง”
ปมเงื่อนสำคัญก็คือ คลิปอันเผยแพร่โดย นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ดำเนินไปอย่างผิดข้อมูล ความเป็นจริงและมีลักษณะบิดเบือน
ก็จำเป็นต้อง “จัดการ”

ต้องยอมรับว่า กรณีของ เบส อรพิมพ์ มิได้เป็นเรื่องในเชิงข้อมูลและความเป็นจริง
หากเป็นเรื่องในทาง “ความคิด”
เป็นเรื่องในทางความคิดที่เข้าใจและประเมินท่าทีของคนอีสานผิดพลาด คลาดเคลื่อน
ขณะที่ของ นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เป็นเรื่อง”ข้อมูล”
การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องอิงอยู่กับ”ความเป็น จริง”
ความเป็นจริงอันเกี่ยวกับ”สถาบัน”
ความเป็นจริงในทางประวัติศาสตร์ว่าดำเนินไปในลักษณะบิดเบนเพื่อเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งหรือไม่
“ความเป็นจริง” จึงเท่ากับเป็น “คำตอบ”

เรื่องในทางความคิด เรื่องในทางทัศนคติ แบบ เบส อรพิมพ์ อาจไม่สัมพันธ์กับฐานความรู้ ฐานทางการศึกษา
เมื่อเข้าใจผิด ยอมรับผิดก็ให้อภัยได้
แต่ถ้าเป็นเรื่องของข้อมูล เรื่องของข้อเท็จจริงทั้งปัจจุบันและในทางประวัติศาสตร์
ค่อนข้างซับซ้อน มากด้วยเงื่อนปม
อย่างเช่นความจริงในกรณีเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อเดือนมิถุนายน 2475 ความจริงในการเปลี่ยนธงชาติจากธงตราช้างมาเป็นธงไตรรงค์ เป็นต้น
หากนำเสนออย่างผิดพลาด คลาดเคลื่อน ก็ต้องทำความเข้าใจว่ามีสาเหตุมาอย่างไร
เป็นเพราะไม่รู้ หรือเป็นเพราะมีเจตนาบิดเบือน
ความเป็นจริงคือเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบตัวตนของ นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ให้เป็นที่ประจักษ์
“ความจริง” คือ “หินลองทอง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน