ภาพการไปให้กำลังใจ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”ที่สน.พญาไท ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อประสานกับแถลงจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย

ทำให้สถานการณ์การเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”มีความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย

ในความเป็นจริง ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าพรรคชาติพัฒนา ล้วนดำรงอยู่อย่างที่เรียกว่า “อยากเลือกตั้ง”

มิได้มีแต่เพียงพรรคเพื่อไทย มิได้มีแต่เพียงพรรคอนาคตใหม่ เท่านั้น

เพียงแต่ “วิธีการ”ในการสำแดงออกมีความแตกต่างกัน

ในความเป็นจริง การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”มิได้เป็นครั้งแรก

ตรงกันข้าม เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม มาแล้ว








Advertisement

พวกเขาจึงเป็นเหมือน Start Up สะท้อนความรู้สึกลึกๆของคนไทยที่แม้จะต้องการ “การเลือกตั้ง” แต่ก็มิได้แสดงออกโดยตรง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองที่มีเป้าหมายและความต้องการที่จะจัดตั้งพรรค

เพื่อเข้าสู่สนามของ “การเลือกตั้ง”

การที่คสช.และรัฐบาลตัดสินใจดำเนินมาตรการ “เข้ม”กับการเคลื่อนไหวล่าสุดของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”จึงเหมือนกับเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

ลิงบางตัวก็ยังมองด้วยความเฉยเมย ลิงบางตัวเริ่มขยับและแสดงความไม่เห็นด้วย

“กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”จึงเหมือนกับเป็น “หัวรถจักร”นำร่อง

มีความเด่นชัดว่าสถานการณ์ในวันที่ 22 พฤษภาคมจึงเป็นจุดตัด จุดหักเลี้ยวที่สำคัญในทางการเมือง

เกิดขึ้นในวาระ 4 ปีของ “รัฐประหาร”

เป็นคำถามสำคัญไม่เพียงแต่ต่อ “คสช.”ซึ่งเป็นผู้ลงมือทำรัฐประหารเมื่อ 4 ปีก่อนเท่านั้น

หากแต่ยังต่อพรรคการเมืองและต่อประชาชนไทยอย่างแหลมคมยิ่ง

นั่นก็คือ จะมีท่าทีอย่างไรต่อมาตรการเข้มนี้ของ “คสช.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน