ทั้งๆที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มีผลงานและความสำเร็จมากหลายในทางการเมือง

เหตุใดจึงเกิด”น้ำเสียง”ในเชิง”สบประมาท”

อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บางคนถึงกับออกมายืนยันว่ามีผลกระทบกับฐานเสียงพรรคในภาคใต้ไม่มาก

นักวิชาการฟันธงว่า น่าจะได้ไม่เกิน 5-6 เสียง

เท่ากับมองข้ามบทบาทและความหมายของ นายเอนก เหล่า ธรรมทัศน์ ที่เคยนำเสนอทฤษฎี “สองนัคราประชาธิปไตย” อันเท่ากับเป็นผลึกในทางปัญญา

เท่ากับมองข้ามบทบาทและความหมายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ระดม”มวลมหาประชาชน”อย่างอึกทึกครึกโครม

กระทั่งนำไปสู่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

 

หากในทางวิชาการ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มีความโดดเด่นได้รับการยกย่อง

ในทางการเมือง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่แพ้ใคร

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อาจก่อปรากฏการณ์ปั้นให้ นาย ชวน หลีกภัย ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว

โดยเฉพาะยุทธการ”งูเห่า”เมื่อปี 2540

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เคยก่อปรากฏการณ์เสกให้ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทะยานไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนธันวาคม 2551

ผ่านยุทธการดึง นายเนวิน ชิดชอบ ออกจากพรรคพลังประชาชน

หากสังคมยกย่อง นายวิษณุ เครืองาม ในฐานะผู้ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “อภินิหารในทางกฎหมาย” ก็น่าจะยกย่อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้ก่อให้เกิด “อภินิหารในทางการเมือง”

ก็รัฐประหาร 2557 มิใช่หรือที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

 

คำตอบต่อกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และต่อกรณี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ดำเนินไปตามกฎแห่งยุทธจักร

ผู้ใดมาด้วย”ดาบ” ก็ย่อมไปด้วย “ดาบ”

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีส่วนในการปูทางให้กับรัฐประหาร

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้ตำแหน่งจากผลแห่งรัฐประหาร

รัฐประหาร” นั่นแหละจะฉุด 2 คนนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน