ความพยายามค้นหาเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี 13 ชีวิต ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เป็นเรื่องที่ผู้คนติดตามอย่างใกล้ชิดและเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกฝ่ายทั้งของไทยและจากนานาประเทศ
แต่ละวันมีความหวังและการเฝ้ารอด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะเมื่อผ่านพ้นหนึ่งสัปดาห์
ความยากลำบากในปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือในครั้งนี้คือธรรมชาติทั้งตัวสถานที่วนอุทยานที่สลับซับซ้อน สภาพอากาศที่อยู่เหนือการควบคุม และเวลาที่ล่วงเลยไปทุกขณะ
วิธีการและมาตรการต่างๆ ที่แต่ละส่วนคิดหาและนำมาใช้จึงล้วนพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรคทางธรรมชาติ ไม่ว่าการระบายน้ำ การหาช่องทางเข้าสู่ถ้ำ การติดตั้งระบบสื่อสาร-ไฟฟ้าภายในถ้ำ
กระทั่งบรรลุผลพบทั้ง 13 ชีวิต
สิ่งที่เห็นเด่นชัดในเหตุการณ์ครั้งนี้คือเรื่องของน้ำจิตน้ำใจและการให้ความสำคัญกับชีวิตทุกชีวิต
ชาวบ้านหลายคนในอำเภอแม่สายยินดีที่จะให้พื้นที่ไร่นาของตนเองถูกน้ำท่วมและผลผลิตเสียหายจากการรองรับน้ำที่สูบและระบายออกมาจากถ้ำหลวง เพื่อแลกกับการให้ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเร่งรุดหน้า เพราะทุกคน เห็นว่าชีวิตคนสำคัญที่สุด
ขณะที่หน่วยงานเอกชนและอาสาสมัครพยายามที่จะส่งความช่วยเหลือไปสนับสนุนภารกิจครั้งนี้อย่างเต็มที่และเร่งด่วน
เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่กำลังใจจากทุกสายมุ่งสู่แม่สาย
อย่างไรก็ตามช่วงที่เกิดความบีบคั้นของเวลาและสถานการณ์ต่างๆ ในภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้ทำให้ผู้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์สูงมาก ทั้งในด้านบวกและด้านลบ
เมื่อมีประเด็นติติงหรือวิจารณ์จึงกลายเป็น กระแสทางสังคมที่โต้เถียงกันอย่างรวดเร็วและอาจเกิดความเข้าใจผิด
การติดตามข่าวความคืบหน้าจึงควรต้องลดการใช้อารมณ์ลง และหลีกเลี่ยงการตัดสินผู้อื่น อย่างรวบรัด
โชคดีที่วันที่สิบของการค้นหาลงเอยด้วยการพบทั้ง 13 ชีวิต สถานการณ์จึงพลิกไปสู่ความคลี่คลายและโล่งใจ
ขั้นตอนจากนี้ไปคือการติดตามข่าวภารกิจนำตัวเด็กออกมาจากถ้ำ ด้วยการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
