คำถามต่อปัญหา “ไพรมารี โหวต”อันมาจาก พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สอดรับอย่างแหลม คมต่อคำถามอันมาจากสังคมเป็นอย่างสูง
นั่นก็คือคำถามที่ว่า
“เป็นปัญหาของพรรคไหน ปัญหาของใคร และปัญหาอยู่ตรงไหน”
จึงไม่สามารถทำ “ไพรมารี โหวต”
เพราะจากฐานข้อมูลของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม “เพราะ เท่าที่ฟังมาทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยก็ไม่เห็นมีปัญหาและบอกว่าพร้อมจะทำกันหมด”
ปัญหานี้ถามต่อ 1 คสช. 1 กกต. และ 1 ต่อพรรคการเมือง
ขณะเดียวกัน หากเริ่มต้นเสาะหาคำตอบจากที่ประชุมคสช.ร่วมกับครม.เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ก็พอจะมองเห็นเบาะแส
เพราะในที่สุด “คลายล็อก”ในเรื่องการหา “สมาชิก”
เพราะในที่สุด “คลายล็อก”โดยให้มีรูปแบบคณะกรรมการสรรหาจำนวน 11 คน เพื่อเสนอเข้าไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค
ขณะที่ “รายละเอียด”จะมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ออกมาอีกฉบับหนึ่ง
เมื่อลงลึกไปใน “รายละเอียด”ทุกฝ่ายก็จะถึง “บางอ้อ”
ปัญหาอยู่ที่แม้ว่าจะมีรัฐธรรมนูญประกาศและบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองประกาศและบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560
แต่ไม่สามารถ “ปฏิบัติ”ได้ เพราะยังมีประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 เพราะยังมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 และเพราะยังมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560
จึงต้องมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ออกมาอีก 1 ฉบับเพื่อ “คลายล็อก”
คำตอบต่อคำถามของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เบื้องต้นจึงมิได้อยู่ที่พรรคการเมืองอย่างเดียว หากแต่ยังอยู่ที่คสช.อย่างเป็นด้านหลัก
ยิ่งระยะเวลา “ปลดล็อก” ทอดยาวเนิ่นนานไปเพียงใด คำถามในแบบเดียวกันนี้ก็จะยิ่งดังกึกก้อง
กึกก้องเต็ม 2 หูของ “คสช.”