พลันที่ปรากฏภาพ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นั่งเรียงเคียงกับภาพ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในการประชุมพรรคประชาชาตินัดแรกก็นำไปสู่การประสาน 2 พลังเข้าด้วยกัน
1 พลังของ “นักการเมือง” และ 1 พลังของ “ข้าราชการ”ประจำ
ยิ่งหากมองย้อนกลับไปยัง”อดีต”ยิ่งเห็นเด่นชัด
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา คือ นักการเมืองในกลุ่มวาดะห์ซึ่ง เกาะติดอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคของ นายเด่น โต๊ะมีนา แห่งปัตตานี
เคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง
ขณะที่ฐานของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็สำคัญ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มีรากฐานการเติบโตมาจากกองปราบปราม จากนั้นสไลด์เข้าไปดำรงตำแหน่งในกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ
กระทั่งได้เป็น “อธิบดี”
จากนั้นได้รับมอบหมายจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้ หรือ “ศอ.บต.”
ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดสายสัมพันธ์กับนักการเมืองในพื้นที่โดย เฉพาะอย่างยิ่ง “กลุ่มวาดะห์”
ยิ่งเมื่อรัฐบาลไทยมอบความไว้วางใจให้รัฐบาลมาเลเซียเป็นคนกลางในการนำเอาตัวแทนกลุ่มผู้ก่อการทางการเมืองการทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมหารือ
ยิ่งทำให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มีความเข้าใจและเข้าไปมีบทบาทในการหาทางออกให้กับปัญหาที่สะสมมายาวนานได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคประชาชาติของ พ.ต.อ.ทวี สอด ส่อง จึงมีความหมายเป็นอย่างสูง
การเกิดขึ้นของพรรคประชาชาติจึงเท่ากับเป็นการตกผลึกในเนื้อหาที่จะบริหารจัดการปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
นำเสนอให้เป็น”ทางเลือก”สำหรับประชาชนในพื้นที่
เป็นการสรุปความจัดเจนจากทั้งของนักการเมืองอันเป็นตัวแทนของประชาชน และความจัดเจนของข้าราชการที่อยู่ในฐานะของนักปฏิบัติอย่างแท้จริง