ศาลอุทธรณ์ให้ประกันทนายร่วมทีมฆ่า “เอ็กซ์ จักร กฤษณ์” ด้วยหลังยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้าน แต่มีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ด้านโฆษกศาลแจงให้ประกันตัวหมอนิ่ม ชี้ไม่มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน-หลบหนี เหตุมีที่อยู่-ทำงานเป็นหลักแหล่ง เมื่อหลักประกันน่าเชื่อถือจึงอนุญาตปล่อยชั่วคราว

จากกรณีศาลพิพากษาประหาร พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ฐานจ้างวานฆ่านาย จักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม สามีและอดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เหตุเกิดเมื่อปี 2556 รวมทั้งสั่งประหารนายสันติ ทองเสม หรือทนายอี๊ด ทำหน้าที่จัดหาทีมฆ่าเช่นกัน ขณะที่มือปืนและคนขี่รถจักรยานยนต์ให้จำคุกตลอดชีวิต พร้อมให้ชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาท ส่วนแม่ของหมอนิ่มให้ยกฟ้อง เนื่องจากพยานเบิกความขัดแย้งกันและเชื่อว่ารับผิดแทนลูก ต่อมาศาลอุทธรณ์ให้ประกันหมอนิ่ม ด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ที่นายสันติ ทองเสม หรือทนายอี๊ด ถูกพิพากษาประหารชีวิตและยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยศาลจังหวัดมีนบุรีเบิกตัวนายสันติจากเรือนจำบางขวาง เพื่อฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ โดยมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายสันติ ตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ก่อนศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายปล่อยตัวจำเลยส่งไปยังเรือนจำบางขวาง

ขณะเดียวกัน นายบุญเรือง อุทัยรัตน์ ทนายความครอบครัวพณิชย์ผาติกรรม เดินทางมาขอคัดคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวพญ.นิธิวดี โดยนายบุญเรืองกล่าวว่า ถือเป็นกรณีศึกษา เพราะศาลอุธรณ์ให้ประกันตัวจำเลยที่มีโทษสูงถึงประหารชีวิต ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ไม่ยื่นคัดค้านการประกันตัวนั้น เพราะไม่คิดว่าจะได้ประกันตัว เนื่องจากอัตราโทษสูง แต่ถึงจะยื่นคัดค้านก็ไม่มีผล เพราะการยื่นขอประกันตัวเป็นเรื่องของจำเลยกับศาลเท่านั้น

นายบุญเรืองกล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของเอ็กซ์แล้ว ซึ่งทั้ง 2 คนก็ทราบเรื่องจากทีวีว่าหมอนิ่มได้ประกันตัว โดยคุณแม่ของเอ็กซ์ออกจะดีใจด้วย เพราะเป็นห่วงหลาน ส่วนสิทธิ์ในการดูแลบุตรทั้ง 2 คนของเอ็กซ์นั้น ยังเป็นของหมอนิ่ม เพราะถือว่าเป็นแม่ หลังจากนี้อาจขอยื่นในชั้นอุทธรณ์ให้พิจารณาการยกฟ้องของจำเลยที่ 2 คือนาง สุรางค์ ดวงจินดา แม่ของหมอนิ่ม ส่วนในเรื่องคดีให้เป็นไปตามแต่ศาลจะพิจารณาอย่างไร ส่วนการต่อสู้คดีก็ว่าชั้นอุทธรณ์ต่อไป

ด้านนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม อธิบายข้อกฎหมายการปล่อยชั่วคราวในกรณีของพญ.นิธิวดีและนายสันติว่า การที่ศาลจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวต้องปรากฏเหตุอันควรเชื่อเหตุใดเหตุหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 คือ 1.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี 2.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 3.ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4.ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันไม่น่าเชื่อถือ 5.การปล่อยชั่วคราวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล

นายสืบพงษ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จึงไม่มีกรณีที่พญ.นิธิวดีและนายสันติจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาลตาม (2) (3) และ (5) คงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพียงว่าจำเลยจะหลบหนีหรือไม่ โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า พญ.นิธิวดีและนายสันติมีภูมิลำเนาที่อยู่และประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงไม่มีพฤติการณ์ที่สงสัยว่าน่าจะหลบหนี ซึ่งเป็นการใช้ดุลพินิจพิจารณาจากข้อเท็จจริงในสำนวนคดีเป็นเรื่องๆ ไป เพราะข้อเท็จจริงในแต่ละสำนวนไม่เหมือนกัน เมื่อหลักประกันที่ผู้ร้องขอประกันน่าเชื่อถือ ศาลอุทธรณ์จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว อันเป็นการพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยกำหนดมาตรการป้องกันการหลบหนีด้วยการห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร สอดคล้องกับหลักการอันเป็นสากลว่าในคดีอาญาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน