ศาลอาญาออกหมาย จับแกนนำกลุ่ม ‘อุลตร้า ไทยแลนด์’ และบุคคลในภาพรวม 11 คน ในคดีจุดพลุแฟลร์ ในสนามราชมังฯ หลังทั้งหมดไม่ยอมเข้าให้ปากคำกับตำรวจหัวหมาก ขณะที่ ตร.สอบพยานอีกราย พร้อมเรียกสอบเพิ่มอีก 14 ราย ขณะที่ ประธานกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ ยังไม่ยอมมาพบตำรวจตามนัด นายกสมาคมฟุตบอลฯ เผยสมาคมพร้อมเข้าให้ข้อมูล หรือแจ้งความร้องทุกข์ หากทางตำรวจประสานมา

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีกลุ่มแฟนบอลที่ใช้ชื่อ‘อุลตร้า ไทยแลนด์’ จุดพลุแฟลร์ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ในระหว่างเกมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ‘เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016’ รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ซึ่งทีมชาติไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ สน.หัวหมาก มีพยานเดินทางมาให้ข้อมูลอีก 1 ราย โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และคำให้การของพยานเรียบร้อยแล้ว

201612221709271-201412191416121

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พยานรายนี้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่า เจ้าหน้าที่เรียกตัวมา สอบปากคำในฐานะพยานเท่าที่เห็นในวันนั้น แต่ตนไม่รู้ว่าใครเป็นใครจำอะไรไม่ได้ ปิดหน้าปิดตากันหมด ตำรวจเอารูปมาให้ดูก็ ไม่ได้ชี้รูปใคร คำให้การทั้งหมดอยู่กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะไปขอหมายจับบุคคลตามภาพถ่ายขณะที่จุดพลุแฟลร์อยู่ในสนามกีฬาราชมังคลาฯจากศาลอาญารัชดาฯ หลังขอความร่วมมือให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว ไม่เข้ามาพบ โดยการขอหมายจับครั้งนี้เป็นบุคคลตามภาพถ่ายและแกนนำกลุ่ม ‘อุลตร้า ไทยแลนด์’ รวมสิบกว่าคน ในความผิดข้อหา “นำเข้ามา ผลิตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม” มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหา “ขัดขวางข่มเหงเจ้าพนักงานไม่ให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่”

ด้าน พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่านอกจากจะดำเนินการออกหมายจับตามภาพ แล้วยังมีการออกหมายเรียกเพิ่มอีก 10 กว่าราย เพื่อให้มาเป็นพยานในส่วนของนายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ ทางทนายติดต่อมาว่าจะเดินทางเข้ามาที่ สน.หัวหมาก ในวันนี้

%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%a5-%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%81

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาที่ สน.หัวหมาก ก่อนเชิญตัว นายวรพล เสริมสกุล ชาวจ.ลำปาง ผู้ขายพลุแฟลร์ออนไลน์ให้กับกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ พร้อมทนายเดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยาน

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของงานสอบสวน เข้าใจว่าอยู่ระหว่างการเอาคำร้องไปยื่นขอให้ศาลออกหมายจับ แต่จะออกหมายจับใครบ้างขออนุญาตยังไม่เปิดเผยเพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน วันนี้ก็ได้เชิญตัวนายวรพลที่อยู่ลำปาง มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ว่ามีความเป็นมาอย่างไร เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่าเป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวทางออนไลน์ให้กับกลุ่มที่มาจุดในราชมังคลากีฬาสถาน นายวรพลยืนยันว่าจำหน่ายอยู่ที่ จ.ลำปาง ทั้งนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการในส่วนนี้อย่างไร ส่วนตัวแกนนำกลุ่มยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็ขอฝากไว้ด้วยว่าโทษทางอาญาก็คงไม่เท่าไหร่ แต่โทษทางเรื่องสังคมก็ขอให้พวกที่เกี่ยวข้องมาพบพนักงานสอบสวน

“พรุ่งนี้เราจะออกหมายเรียกมาอีก 14 ราย ก็ขอให้มาพบกับพนักงานสอบสวนด้วยความสนิทใจว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร จะได้ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ให้คลี่คลาย และรักษาภาพลักษณ์ของบ้านเรา ทุกคนที่มาปรากฏตามภาพไม่ได้ทำผิดทุกคน บางคนไปเชียร์ก็ไม่ได้จุด ไม่ได้ทำอะไร ผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความผิดทางอาญาเราก็ต้องแยกกัน ผมยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมต่อทุกคน ในส่วนของตัวแกนนำนั้นยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะออกหมายเรียกหรือจะออกหมายจับเลยหรือไม่” ผบช.น.กล่าว

ขณะที่ทางด้าน ‘บิ๊กอ๊อด’พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปมีส่วนในตรงนั้น และรอเพียงแต่ว่าถ้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะต้องเข้าไปมีส่วนให้ข้อมูลในฐานะผู้เสียหาย หรือต้องเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่อย่างไร เราก็จะต้องเข้าไปทำหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบตรงนี้ เพื่อให้ข้อมูลให้การจับตัวผู้ก่อเหตุ

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับการที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามาสืบสวนสอบสวนนั้นก็เป็นขั้นตอนของกฎหมายสำหรับผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งอันดับแรกตามกระบวนการทางกฎหมายพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียกให้มาพบ ถ้าเรียกตัวแล้ว ไม่มาพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลในการขออนุมัติออกหมายจับต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดศาลอาญารัชดาฯ อนุมัติหมายจับในคดีดังกล่าว จำนวน 11 ราย หลังขอความร่วมมือให้บุคคลตามภาพที่ปรากฏเข้ามาพบ แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อ โดยเป็นบุคคลตามภาพถ่ายจำนวน 8 รายและแกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ 3 ราย ซึ่งชุดสืบสวนจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน