คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 อาจเป็นคำสั่งสุดท้ายก่อนจะมีการ ปลดล็อกอย่างแท้จริงในเดือนธันวาคม 2561
ถามว่ายังมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่
“อำนาจ”ยังเป็นของคสช. และยังเป็นของรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ถามต่อไปว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองยังมีความหวั่นเกรงหรือไม่
ตอบได้ว่ายังมี แต่ก็เพิ่มความกล้ามากยิ่งขึ้น
เห็นได้จากท่าทีของ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล จากพรรค ชาติไทยพัฒนา สัมผัสได้จากท่าทีของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จากพรรคประชาธิปัตย์
ข้อเรียกร้องของพวกเขาไปไกลกว่าการคลายล็อก หากแต่ยังต้องการการปลดล็อก
เหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองมีความวีระอาจหาญมากยิ่งขึ้น
คำตอบมาจากปัจจัยเดียว
นั่นก็คือ การประกาศและบังคับใช้พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561
เพราะนี่คือ สัญญาณอันคมชัดเป็นอย่างยิ่ง
แม้จะมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 ออกมาติดเบรกเหมือนกับที่เคยมีคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 53/2560
แต่ความหวาดกลัวก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
เพราะว่าพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 เท่ากับเป็นแรงผลักดันให้หัวรถจักรของโรดแมปการเลือกตั้งไปอยู่บนรางและรอคอยการพุ่งทะยาน
เท่ากับเป็นการสร้างความชอบธรรมโดยพื้นฐานให้กับทุกพรรคการเมือง
เมื่อเอยก็เมื่อนั้นทันที
ไม่ว่าบทบาทของรัฐบาล ไม่ว่าบทบาทของคสช.จะค่อยๆถูกสภาพการณ์กดดันให้ต้องไปยืนอยู่ในสถานะ “รักษาการ”
แม้ “คสช.”จะมีความต้องการสักเพียงใด
เพราะพลันที่ปี่กลอง”การเลือกตั้ง”เริ่มขึ้น พระเอกย่อมเป็น “กกต.” มิใช่คสช. การเบียดแทรกเข้ามาของคสช.จึงยิ่งวันจะยิ่งดำเนินไปในแบบ”แปลกปลอม”
เป็นความแปลกปลอม เป็นความแปลกแยกภายในพัฒนาการ”ประชาธิปไตย”