สิ้น”นำพล หนองกี่พาหุยุทธ์”แชมป์มวยไทย ปิดตำนาน”ขุนเข่าหน้าเปื่อย” สิ้นใจด้วยวัย 47 ปีจากโรคปอดที่ป่วยมานาน ญาตินำศพจากร.พ.นางรองกลับหนองกี่บ้านเกิด “ครูปราโมทย์”ผู้ปลุกปั้นเผยเป็นการสูญเสียยอดมวยไทย ผู้มีอาวุธเข่าเป็นเอกลักษณ์ ใจสู้ไม่มีถอยแม้จะแตกเลือดอาบ ถูกอาวุธคู่ต่อสู้จนต้องเย็บมากถึง 268 เข็ม เคยได้ค่าตัว 2 แสนกว่าบาท ผ่านมวยดังๆ สามารถ, เจริญทอง, แสงเทียนน้อย, เชอรี่ รวมทั้งรามอน เด๊กเกอร์ ครองแชมป์ลุมพินี 3 รุ่น มีน้องชายเป็นยอดมวยไทยอีกคนคือ”นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ์”
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายนำพล สีจันทึก หรือ”นำพล หนองกี่พาหุยุทธ์” อดีตแชมป์มวยไทยชื่อดัง เจ้าของฉายาขุนเข่าหน้าเปื่อย เสียชีวิตแล้วในวัย 47 ปี หลังจากป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรังมานาน โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา นำพลที่พักรักษาตัวอยู่บ้านต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มีอาการทรุดลง ญาติรีบนำส่งร.พ.หนองกี่ ก่อนส่งต่อร.พ. นางรอง จ.บุรีรัมย์ กระทั่งเสียชีวิตอย่างสงบในเวลา 05.00 น.
ต่อมาญาติเคลื่อน ศพของนำพลออกจาก ร.พ.นางรอง มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านของพี่สาว เลขที่ 48 หมู่ 9 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ โดยมีนายกำพล สิริรัตตนนท์ นายอำเภอหนองกี่ นายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ นายปราโมทย์ หอย มุกข์ ครูมวยแห่งค่ายหนองกี่พาหุยุทธ์ รวมทั้งญาติพี่น้อง และแฟนมวย ร่วมรดน้ำศพด้วยบรรยากาศเศร้าสลด ซึ่งญาติตกลงกันแล้วจะสวดอภิธรรม 6 คืน จากนั้นทำพิธีฌาปนกิจที่วัดเก่าหนองกี่ ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.
นาย ปราโมทย์ ครูมวยผู้ปลุกปั้นนำพลกล่าวว่า ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการมวยไทย นำพลเป็นนักมวยที่มีเอกลักษณ์ใช้เข่าเป็นอาวุธสำคัญเอาชนะคู่ต่อสู้มามากมาย ใจสู้ห้าวหาญเดินหน้าไม่มีถอยแม้จะถูกอาวุธคู่ต่อสู้จนหน้าตาแตกเลือดอาบก็ ไม่หยุด ตลอดชีวิตนักมวยต้องเย็บแผลแตกมากถึง 268 เข็ม การเสียชีวิตของนำพลเป็นการปิดตำนาน”ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ผู้สร้างชื่อเสียงให้กับอ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และประเทศไทย ทั้งนี้ นำพลมีน้องชายเป็นยอดมวยไทยอีกคนคือ “จอมไถนา”นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ์
นำ พลเคยครองแชมป์เวทีลุมพินี 3 รุ่นคือ ไลต์ฟลายเวต 108 ปอนด์, ฟลายเวต 112 ปอนด์ และเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์ มีค่าตัวสูงถึง 2 แสนกว่าบาท โด่งดังช่วงปี 2530-2534 ปะทะกับนักมวยดังๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ สามารถ พยัคฆ์อรุณ, เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, แสงเทียนน้อย ศิษย์สุรพงษ์, เชอรี่ ส.วานิช, รามอน เด๊กเกอร์ ฯลฯ ถือเป็นยอดมวยไทยคนหนึ่ง หลังจากเลิกมวยนำพลกลับมาใช้ชีวิตที่อ.หนองกี่บ้านเกิด ก่อนล้มป่วยด้วยโรคปอดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แม้จะพยายามรักษาตัวมาตลอดแต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งเสียชีวิตในวัย 47 ปี
