โครงสร้างพรรคเพื่อไทยอันปรากฏผ่านการประชุมและลงมติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เป็นโครงสร้างทั้งที่เป็นไปตามความคาดหมายและนอกเหนือความคาดหมาย
นั่นก็เห็นได้จากการมอบหมายตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น เลขาธิการพรรค
ขณะเดียวกัน ก็จัดวางบทบาทของอีก 3 คนที่จะเข้าไปอยู่ในรายชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
1 นายจาตุรนต์ ฉายแสง
1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ 1 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
3 รายชื่อนี้น่าสนใจ
หากประเมินจากถ้อยแถลงของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ประสานกับแถลงการณ์ของพรรคภายหลังการประชุมใหญ่ก็จะสัมผัสได้ในยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย
ต้องยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยมีความเป็นเอกภาพอันแข็งแกร่งและมั่นคง
ที่แยกตัวออกไปก็มีเพียงจำนวนน้อย
จำนวนน้อยนั้นส่วนหนึ่งอาจเพราะเหตุผลส่วนตัว ส่วนหนึ่งอาจเพราะความจำเป็นเนื่องจากคดีความ
การแยกตัวของพรรคประชาธิปัตย์หนักกว่าพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน การนำของพรรคเพื่อไทยเด่นชัดยิ่งว่าเป็นการนำในลักษณะ “รวมหมู่” โดยจะมี “จาตุรนต์-สุดารัตน์-ชัชชาติ”มีบทบาทสำคัญ
ไม่ว่าทางด้าน “ยุทธวิธี” ไม่ว่าทางด้าน “กลยุทธ์” ในแต่ละจังหวะก้าวทางการเมือง
ส่วนใครจะได้เป็น “นายกรัฐมนตรี”ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
นับแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเต็มเปี่ยมที่จะเข้าสู่กระบวนการ “เลือกตั้ง”
เห็นได้จากการขยับของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
เห็นได้จากการขยับของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประสานเข้ากับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในเรื่องการจัดทำ “นโยบาย”และการตระเตรียมทางการเมือง
ที่ว่าพรรคเพื่อไทยเป็น “ทัพหลวง”สามารถสัมผัสได้จากความเป็นจริงของการนำโดย 3 แคนดิเดต “นายกรัฐมนตรี”