ศาลจำคุก 3 ปี “แทน เทือกสุบรรณ” ลูกชายเทพเทือก อดีตส.ส.ประชา ธิปัตย์ แกนนำกปปส.บุกรุกเขาแพง เกาะสมุย “บรรเจิด เหล่าปิยะสกุล”อดีตเลขาฯเทพเทือกโดนด้วย ส่วน “โกเข็ก”และกลุ่มนายหน้าโดนโทษ 5 ปี ศาลชี้ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ เป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรจะต้องร่วมกันหวงแหน บำรุงรักษาเพื่อประโยชน์ร่วมกัน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดร้ายแรงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ก่อนที่ทนายจะยื่นประกันตัวออกไป โดยศาลตีราคาประกันคนละ 500,000-800,000 บาท และห้ามออกนอกประเทศ ขณะที่การทวงคืนผืนป่ายัง เข้มข้น “ศักดา วิเชียรศิลป์” รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่งเจ้าหน้าที่ทส.ประสานกำลังหลายหน่วยเข้าตรวจสอบที่ดิน”จรัญ เจียรวนนท์”ซ้ำอีกรอบ หลังพบ รุกป่าสงวนอ.เขาสมิง จ.ตราด กว่า 60 ไร่ ก่อนดำเนินการยึดและดำเนินคดีต่อไป

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีบุกรุกที่เขาแพง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพรชัย ฟ้าทวีพร อายุ 51 ปี ผจก.ห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น, นายสามารถ หรือโกเข็ก เรืองศรี อายุ 59 ปี หุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น และนายหน้าขายที่ดิน, นายแทน เทือกสุบรรณ อายุ 35 ปี บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกปปส., นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อายุ 61 ปี อดีตเลขานุการส่วนตัวนายสุเทพ เป็นจำเลยที่ 1-4 ความผิดฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วย ประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2518 มาตรา 22

อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2556 บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 27 ก.ย.2543 ถึง 5 ต.ค.2544 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา โดยจำเลยที่ 3-4 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาล พิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว พยานหลักฐานโจทก์นำสืบรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นความผิดตาม ฟ้อง จึงพิพากษาว่า นายพรชัย และนายสามารถ หรือโกเข็ก จำเลยที่ 1-2 มีความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง, 72 ตรี วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 5 ปี

ส่วนนายแทน และนายบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1), 108 ทวิ วรรค 1 และพ.ร.บ. ป่าไม้ฯ มาตรา 54 วรรคหนึ่ง, 72 ตรี วรรคหนึ่ง โดยการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ให้จำคุกคนละ 3 ปี

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์ว่า ป่าไม้เป็นทรัพยากร ธรรมชาติที่สำคัญ และเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของชาติ ควรที่ประชาชนจะต้องร่วมกันหวงแหน บำรุงรักษาให้อุดมสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ ร่วมกัน ไม่ให้เป็นของส่วนตัวแก่ผู้ใด การ กระทำของจำเลยทั้งสี่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมของดิน น้ำ อากาศ และป่าไม้ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อันเป็นต้นเหตุของความแห้งแล้ง และภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลาก สภาพความผิดจึงเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

นอกจากนี้ยังให้จำเลยทั้งสี่ คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสี่ออกจากที่ดินและป่าไม้บริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมด ส่วนข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

ภายหลังศาลพิพากษา ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมด้วยหลักทรัพย์ อาทิ สมุดเงินฝากธนาคาร, หนังสือน.ส.3 ก. เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อสู้คดี ต่อมาเวลา 16.15 น. ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งสี่ โดยตีราคาประกัน นายพรชัย และนายสามารถ หรือโกเข็ก จำเลยที่ 1-2 คนละ 800,000 บาท นายแทน และนายบรรเจิด จำเลยที่ 3-4 คนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสี่ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่ปฏิบัติการตรวจยึดทวงคืน ผืนป่ายังเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเมื่อเวลา 08.30 น.นายรัชชัย พรภา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว, นายธีรัตน์ ธีระวุฒิพันธ์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งและป่าชายเลน ได้รับคำสั่งจากนายศักดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทส., ตำรวจ, ทหาร, ฝ่ายปกครอง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ร่วมประชุมวางแผนที่อบต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อเข้าตรวจสอบท่าเทียบเรือและ บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าโสม ต.ท่าโสม

จาก นั้นเวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ยกกำลัง ไปยังบ้านพักและท่าเทียบเรือของนายจรัญ เจียรวนนท์ พบนายอนันต์ สว่างไสว ผู้ดูแล ได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายที่ 1 ประกอบด้วย ท่าจอดเรือสำราญ(เรือยอชต์) สนามจอดเฮลิคอปเตอร์ บ้านพัก, เป้าหมายที่ 2 บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยใช้อุปกรณ์วัดพิกัด(GPS) และเจ้าหน้าที่รังวัดเข้าดำเนินการ ตามโฉนดที่สำนักงานที่ดินอำเภอเขาสมิง ออกให้ จำนวน 6 แปลง อย่างไรก็ตามโฉนดที่ออกให้ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่า โสม ซึ่งมีการออกโฉนดที่ดินทับ ป่าสงวนแห่งชาติกว่า 60 ไร่

นาย รัชชัย หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบรังวัดแนวเขตที่ดินแล้ว 1 ครั้ง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา วันนี้มาตรวจสอบแนวเขตที่ดินอีกครั้งว่าอยู่บริเวณใด เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเกือบทั้งหมด ซึ่งตัวเลขทั้งหมดยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากการประเมินมีกว่า 60 ไร่ ส่วนบริเวณท่าเรือยังต้องหารือกับกรมเจ้าท่าว่ามีพื้นที่ติดกับป่าสงวนแห่ง ชาติมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะได้วัดแนวระวางและนำไปทาบกับพิกัดในเขตของป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะทราบว่ามีจำนวนการบุกรุก กี่ไร่ ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โดยจะดำเนินคดีกับผู้บุกรุก

ด้านนายอนันต์ ผู้ดูแลพื้นที่กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบและรังวัดแนวเขตอย่างละเอียดเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนเลยโฉนดออกไป ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีพื้นที่อยู่ในโฉนดที่ถูกต้องจำนวนเท่าไร และส่วนที่เข้าไปในป่าสงวนแห่งชาติจำนวนเท่าใด หากพื้นที่ที่เกินจากโฉนดที่ดินเข้าไปในป่าสงวนแห่งชาติก็พร้อมจะคืนให้กับ ทางราชการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายศักดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้ตามแผนปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนจังหวัดตราด 2559 โดยจับกุมดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าชายเลนในต.วังกระแจะ, ต.แหลมกลัด, ต.หนองคันทรง, ต.ตะกาง อ.เมืองตราด และต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งเป็นที่ดินของตระกูลเจียรวนนท์ ทำเป็น ท่าเทียบเรือยอชต์, บ้านพัก รวมทั้งบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ครั้งนั้นนายอนันต์ สว่างไสว ผู้ดูแล นำโฉนดที่ดิน 6 ฉบับมาแสดงการได้มาอย่างถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงเข้ามาดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

รุกป่า - เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบพิกัด ท่าจอดเรือยอชต์และลานจอด ฮ. ภายในบ้านพักของนายจรัญ เจียรวนนท์ หลังพบมีพื้นที่กว่า 60 ไร่รุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าโสม ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อวันที่ 21 ก.ย.

รุกป่า – เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบพิกัด ท่าจอดเรือยอชต์และลานจอด ฮ. ภายในบ้านพักของนายจรัญ เจียรวนนท์ หลังพบมีพื้นที่กว่า 60 ไร่รุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าโสม ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อวันที่ 21 ก.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน