ถึงแม้รัฐบาลพรรคพลังประชารัฐจะเทงบประมาณกว่าแสนล้านบาทเพื่อซื้อเสียงล่วงหน้า ก่อนการเลือกตั้งเพียง 2 เดือน แต่พลัน ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาสรุป”เดินคารวะแผ่นดิน”

และได้ยินเสียงร้องจากแผ่นดิน เสียงร้องจากชาวบ้านในเรื่องเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ตรงกันว่า

“สาหัส”

แผนการตลาดการเมืองของบรรดา”นักการตลาด”แห่งพรรคพลังประชารัฐก็พังครืน เหมือนปราสาททรายต้องคลื่น เพราะเสียงอันดังมาจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างน้อยก็อิงอยู่กับ “มวลมหาประชาชน”

เมื่อ”มวลมหาประชาชน”สาหัส พรรคพลังประชารัฐจะอยู่อย่างไร

น้ำหนักแห่งคำพูดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ภายใต้สถานการณ์อันร้อนแรงทางการเมืองที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่ในฐานะเป็น”คนใน”

เป็นคนในเพราะว่า 1 เขามีส่วนอย่างสำคัญให้คสช.มีสถานะ ทางการเมือง

เพราะหากไม่มีการเคลื่อนไหวของ”มวลมหาประชาชน”ความชอบธรรมที่จะเข้ามาของคสช.ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ย่อมมิอาจเกิดขึ้นได้

บทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงคือ ปูทางและสร้าง เงื่อนไขให้กับ”รัฐประหาร”

ขณะเดียวกัน 1 นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมากระทั่งจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยในเดือนมิถุนายน 2561

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จิตหนึ่งใจเดียวคือ สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การสรุปว่าชีวิตความเป็นอยู่ของ”มวลมหาประชาชน”ล้วนสาหัสจากผลงานการบริหารของคสช.และของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นความซื่อสัตย์อย่างยิ่ง

ซื่อสัตย์ต่อเสียง”มวลมหาประชาชน”ที่สดับตรับฟัง ซื่อสัตย์ต่อความจำเป็นที่จะสะท้อนให้คสช.ได้รับรู้

“คสช.”จึงรับไปเต็มๆจากเสียงสะท้อนของ”แผ่นดิน”ครั้งนี้ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ภักดี

เป็นเสียงสะท้อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน