กรณีของ “วัดพระธรรมกาย” เริ่มปรากฏเป็นข่าวอีกหนเมื่อ “เจ้าหน้าที่” เข้าไปภายในวัด

มิได้เป็นเจ้าหน้าที่จาก “ดีเอสไอ”
และมิได้เป็นเจ้าหน้าที่จาก “ตำรวจ” ไม่ว่าจะจากสำนักงานใหญ่ หรือ สภ.คลองหลวง
หากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ “จังหวัด”
การเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้มิได้เป็นเรื่องอึกทึก ครึกโครม
ตรงกันข้าม ดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ
ความน่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย
พระมหานพพร ปุญญชโย ต้อนรับด้วยตนเอง
การตรวจสอบอาคาร สถานที่ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น
อาจเพราะ”เรียบร้อย”จึงไม่เป็น “ข่าว”

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ปรากฏเงาร่าง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ไม่ปรากฏเงาร่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
หากแต่ดำเนินไปตามทิศทางเดียวกัน
เพราะว่าจากการขยายผลผ่านรูปคดีกว่า 170 คดีอันมาจาก”ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”จำเป็นที่จังหวัดปทุมธานีต้องมีกระทำตามภายในวันที่ 27 มกราคม
ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด”
นายสุเมธ มีนาภา โยธาธิการและผังเมือง นายวีระศักดิ์ ฮาดดา นายกอบต.คลองสาม นายศิริชัย โคตรสารศรี นายอำเภอคลอง หลวง
จึงเดินทางไปยังวัดพระธรรมกาย
เป้าหมายคือ ตรวจสอบอาคารและการก่อสร้างภายในวัดพระธรรมกาย
การปฏิบัติเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีการขัดขวาง

ความเรียบร้อยอันยืนยันมาจาก โยธาธิการและผังเมือง ประสานเข้ากับ นายกอบต.คลองสาม ประสานเข้ากับนายอำเภอคลองหลวง
คือ ความแปลกอย่างยิ่งของ “สถานการณ์”
นี่ย่อมแตกต่างไปจากการเคลื่อนกำลังของ ดีเอสไอ ตำรวจและทหาร ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนธันวาคม 2559
การไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 การไปเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ล้มเหลว
แต่การไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 สำเร็จ
“อาคารสถานที่มั่นคง แข็งแกรง ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” นี่คือบทสรุปในเบื้องต้น
เป็นบทสรุปที่เสนอต่อ “ผู้ว่าราชการจังหวัด”
จากนั้น จึงส่งต่อไปยัง “ตำรวจ” และ “ดีเอสไอ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน