พินัยกรรมหลวงพ่อคูณ

บทบรรณาธิการ : มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพ กำหนดการพิธีพระราชทานเพลิงพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตพระเกจิชื่อดังของภาคอีสาน และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคมนี้

โดยทำพิธีพร้อมๆกับอาจารย์ใหญ่อื่นๆ คือ ผู้บริจาคและอุทิศร่างกายให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับการศึกษา ในวันที่ 29 มกราคม

ในส่วนของพระเทพวิทยาคมนั้น ถือว่ามีความพิเศษเฉพาะลงไป เนื่องจากเป็นผู้มีคุณูปการต่อ มหาวิทยาลัยเป็นอเนกประการ ทั้งระหว่างที่ดำรงชีวิตอยู่จนกระทั่งกาลมรณภาพ

ทั้งหมด มีพินัยกรรมเขียนไว้อย่างชัดเจน

ข้อความในพินัยกรรมระบุไว้ว่าหลังจากเสร็จ สิ้นทางการศึกษาแล้ว ให้ทำพิธีศพอย่างเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิง โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ

โดยให้กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพ ของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่เห็นสมควรและเหมาะสมให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น

เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้นำไปลอยแม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเห็นสมควรและเหมาะสม

จึงสมควรที่จะกระทำตามที่สั่งโดยเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงความกตัญญูและรำลึกถึงคุณูปการที่พระเทพวิทยาคม มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้ดำเนินการก่อสร้างเมรุลอยชั่วคราว เป็นกรณีพิเศษ ที่พุทธมณฑลจังหวัดขอนแก่น เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

แต่ยังคงเน้นความเรียบง่าย เน้นโทนสีขาว สะอาด สว่าง และสงบ ตามพินัยกรรม แต่ก็ยึดโยงกับความเชื่อและคติของภาคอีสาน ประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นสัตว์หิมพานต์จำนวน 32 ชนิดโดยรอบ

ในส่วนของที่ประดิษฐานโกศศพ ก่อนจะสลายสรีระสังขารนั้น ใช้รูปปั้นนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก สีขาวอลังการ ออกแบบให้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆได้คล้ายกับมีชีวิต พร้อมกับส่งเสียงร้องได้ด้วย เพื่อให้เป็นปริศนาธรรม

พิธีปลงศพครั้งสุดท้ายของพระเทพวิทยาคม จึงเป็นเครื่องเตือนใจให้ยึดตามคำสอน ที่เป็นไปเพื่อความเรียบง่าย และเข้าใจชีวิต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน