ทั้งๆที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล่องหนไปจากวงจรการเมืองไทยนับแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2560 มาแล้ว
แต่ชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ได้หายไปไหน
ล่าสุด ป.ป.ช.ยังพยายามขยายผลจากคดีโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปอย่างคึกคักและกว้างไกล
ทั้งๆที่ นายทักษิณ ชินวัตร แปรสภาพเป็น “บักน่อยตุหรัดตุเหร่” ตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มาแล้ว
แต่ชื่อของ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง
ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งละเลียดกาแฟอยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมืองยังอุตส่าห์ถอดรหัส
ทษช. ออกมาให้พันพัวกับ ทักษิณ ชินวัตร จนได้
ความพยายามจะขุดคุ้ยในเรื่องพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็น “ของปลอม”
รวมถึงตำแหน่งที่ได้ใน “ซัวเถา” ก็เป็น “ของปลอม”
ดำเนินไปอย่างมากด้วยสีสัน ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการขยายผลคดีจากโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งโยงไปยังบทบาทของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
น้อง นายทักษิณ ชินวัตร พี่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งทำให้เห็นว่าการขยายผลจากโครงการรับจำนำข้าวไปยังตำแหน่งในซัวเถา ตลอดจนพาสปอร์ตอันระบุว่าออกให้โดยกัมพูชา
น่าจะตั้งเป้าหมายให้เกิดผลกระทบ แรงสะเทือนไปยังการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 อย่างเด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ
คำถามก็คือ พรรคเพื่อไทย สะเทือนหรือไม่
คำถามก็คือ พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชาติสะเทือนหรือไม่
ต้องรอคำตอบจากเดือนมีนาคม 2562
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า ปฏิบัติการรุกไล่ นายทักษิณ ชินวัตร ประสานเข้ากับปฏิบัติการรุกไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยิ่งทวีความคึกคักและเข้มข้นเป็นลำดับ
เพราะนี่คือเงาสะท้อนแห่งปฏิบัติการด้านการข่าว หรือ IO อันมีการวางพิมพ์เขียวเอาไว้แล้ว
ปมเงื่อนอยู่ที่ว่าจะปลุก “กระแส”ให้อึกทึกครึกโครมได้หรือไม่