ขณะที่พรรคพลังประชารัฐพยายามสร้าง LOOK ใหม่ให้กับ “ลุงตู่” เพื่อให้ดู SOFT SOFT สบาย ด้วยการสวมใส่เสื้อสปอร์ต สีสดใส แทนที่จะเป็นสูทดำ หรือเครื่องแบบทหาร

คำประกาศไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ดังมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เหตุผลเพราะไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเผชิญกับสถานการณ์นี้ด้วยความสุขุมเยือกเย็น สามารถร้อยกรองกลอนฝากไปให้อ่านบนเวทีปราศรัยที่นครราชสีมา

แต่หากดูจากปฏิกิริยาอันมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ และจากภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ก็สัมผัสได้ในความหงุดหงิด ไม่พอใจ

ที่ผ่านมา น้ำเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์อาจผิดหวังกับกระบวน การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลคสช. แต่ก็ไม่ถึงกับปัดปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างชนิดไม่ไว้หน้า

แต่ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 24 มีนาคม ความแจ่มชัดในทางการเมืองยิ่งเสนอตัวขึ้นมา

แม้พรรคภูมิใจไทยโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะประกาศอ้อมๆเรียกร้องมิให้ 250 ส.ว.แสดงบทบาทล้ำหน้ามากไปกว่า 500 ส.ส.

แต่ในที่สุดแล้วหากตีกัน 250 ส.ว.ออกไปก็เท่ากับตีกันโอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ความหมายก็เหมือนกับบทสรุป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ทำให้เห็นว่าเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย เริ่มเข้าไปในแนวทางเดียวกันกับเสียงของพรรคเพือ่ไทย พรรคอนาคตใหม่

เท่ากับพรรคใหญ่ พรรคกลาง เริ่ม”เท”คสช.

ไม่ว่าน้ำเสียงอันมาจากพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าน้ำ เสียงอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย เมื่อรวมกันก็จะกลายเป็น “กระแส”

นั่นหมายถึง”อุณหภูมิ”อันเป็น “เงาสะท้อน”ของสังคม

กระแสที่อยู่ตรงกันข้ามกับของพรรคพลังประชารัฐ ตรงกันข้ามกับของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตรงกันข้ามกับรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ในที่สุดก็เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูก”เท”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน