FootNote : ประชาธิปัตย์ บนทางแพร่ง เอา หรือไม่เอา “ประยุทธ์”
พรรคประชาธิปัตย์ตกอยู่ในสถานการณ์แห่งการต่อสู้อย่างดุเดือด เข้มข้น แม้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะลาออกจากตำแหน่งทันทีที่นำพาพรรคพ่ายแพ้ต่อการเลือกตั้ง
การต่อสู้อันหนักหน่วงของพรรคประชาธิปัตย์มิได้อยู่ที่การต่อสู้กับพรรคการเมืองอื่น
หากที่แหลมคมอย่างยิ่ง คือ การต่อสู้“ภายใน”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอย่าง ไรในห้วงแห่งการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย
โจทย์การเมืองครั้งใหม่นี้สะท้อนความขัดแย้ง”ภายใน”ให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
เป็นการปะทุขณะที่พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแออย่างยิ่ง
หากถามว่าความขัดแย้งภายในพรรคเริ่มขึ้นจากมูลเชื้อใดในทางการเมือง
คำตอบทั่วไปคือ มูลเชื้อจากความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง
เป็นความพ่ายแพ้ต่อพรรคไทยรักไทย เป็นความพ่ายแพ้ต่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นความพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทย
ปัจจัยนี้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์กระเสือกกระสนหาทางออก
ทางออกด้วยการบอยคอตเลือกตั้งอาจไม่เพียงพอจึงต้องยื่นมือไปแตะกับกลุ่มพลังอื่นในทางการเมือง
สัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารปี 2549 และก่อนรัฐประหารปี 2557
ตอนแรกอาจเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตอนหลังอาจเป็นกปปส.
หนทางเลือกตรงนี้เองที่กลายเป็นปัญหาภายในพรรค
สะท้อนออกอย่างเด่นชัดตอนมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง และออกฤทธิ์อีกครั้งภายหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้ง
ศึกล้างตาจึงตามมาและจะรุนแรงล้ำลึกเป็นลำดับ
การสำแดงตัวของ นายถาวร เสนเนียม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือแม้กระทั่ง นายอัศวิน วิภูสิริ คือเงาสะท้อนความขัดแย้งที่ดำ รงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์
เป็นผลและความต่อเนื่องก่อนและหลังรัฐประหาร
ยังเป็นหนทางจะเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จำเป็นต้องตัดสินใจ จำเป็นต้องเลือก