ความหวาดระแวงกระทั่งบังเกิดอาการ”ผวา” ต่อเส้นทางก่อนเข้าสู่อาคาร”บุญรักษา” ของ “ดีเอสไอ”
สามารถ”เข้าใจ”ได้
ไม่เพียงเพราะเห็นได้จาก”แผนที่ทางอากาศ”ปรากฏรถแบ็คโฮกำลังขุดร่องน้ำ 5 ร่อง
ติดถนนเชื่อมระหว่างโซนเอ และโซนดี
ลักษณะการขุดเป็นหลุมลึก ด้านหลังมีเต็นท์ที่ตั้งของพระและมวลชนเรียงรายกันอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก
มีการวางท่อ “ปูนซีเมนต์” และ “ถังน้ำมัน”
“การเข้าพื้นที่นี้มีพระสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าพร้อมมวลชนจำนวนมากออกมาต่อต้าน”
“ดีเอสไอ” จึงจำเป็นต้อง”ถอย”
เป็นความหวาดระแวงที่มี 1 ภาพถ่ายทางอากาศ และ 1 ไปประสบเข้าด้วยตนเอง
เหมือนกับเป็นการตระเตรียมในทาง”ยุทธวิธี”
หากประเมินจาก “ท่าที” และการแถลงทั้งในตอนเช้าและในตอนเย็นของ”ดีเอสไอ”
ก็จะ”เข้าใจ”
คงจำได้ว่า อาคาร”บุญรักษา”นี้เองที่กำลังพลจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ พยายามรุกเข้าไป
แต่ก็ถูก”ยัน” กระทั่งต้อง “ถอย”
ลักษณะการ “ยัน” จากฟากของทาง “วัดพระธรรมกาย”ดำเนินไปในลักษณะ “รุก”
“อ่อนน้อม” แต่แฝง “ความแข็งกร้าว”
แม้ครั้งหลังสุดจะเป็นความพยายาม “แหย่” เข้าไปโดยมีพระระดับ”เจ้าคณะตำบล”นำทางพร้อมเจ้าหน้าที่พศ.แต่ก็ประสบเข้ากับ “ยุทธวิธี”เดิม
กำหนด”ขอบเขต” ที่แน่นอน “ห้ามเข้า”
จึงยิ่งสร้างความหวาดระแวงให้กับ”ดีเอสไอ”เป็นทบเท่าและทวีคูณ
อาคาร”บุญรักษา” น่าจะมี “เงื่อนงำ”
ความหวาดระแวงของ “ดีเอสไอ” มีฐานข้อมูลรองรับค่อนข้างหนาแน่นต่อสถานะแห่งอาคาร”บุญรักษา”
เห็นได้จาก”หมายเรียก”ล่าสุด
เป็น”หมายเรียก”ที่นอกจากเจาะจงไปยังเจ้าหน้าที่ที่เชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ “อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์”แล้ว
ยังเน้นไปยังอาคาร “บุญรักษา”
เป้าหมายก็เพื่อจะดึง “กำลัง” บางส่วนออกจากภายในวัดพระธรรมกาย
บั่นทอนการเฝ้าระวัง
แต่ถามว่า “5 เสือ ธรรมกาย”ไม่ตระหนักรู้ต่อเป้าหมายจาก “หมายเรียก”โดย “ดีเอสไอ”เลยหรือ
มั่นใจได้เลยว่า 19 รายหลังไม่น่าจะไปตาม “หมายเรียก”
เหมือนกับที่ 13 คนที่ถูกออก”หมายเรียก”ก็ไม่ยอมออกมาจาก “วัด” ตราบกระทั่งวันนี้