ไม่ว่าคสช. ไม่ว่ากกต.กำลังมีส่วนอย่างสำคัญในการโปรโมทให้กับพรรคอนาคตใหม่ ผ่านการแจ้งความ กล่าวโทษ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล

ไม่ว่าที่ สน.ปทุมวัน ไม่ว่าที่บก.ปอท.และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมติของ กกต.

ข้อกล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 อาจผิดต่อคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง

ข้อกล่าวหาว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจเป็นพฤติการณ์หมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ อาจมีผลสะเทือนถึงขั้นยุบพรรคอนาคตใหม่

แต่คำถามที่สังคมมีต่อคสช. มีต่อกกต.ก็แหลมคมเหมือนกันว่า ทำไมเจาะจงเฉพาะพรรคอนาคตใหม่

คำถามนี้อาจมิได้มาจากแฟนานุแฟนของพรรคพลังประชารัฐ อาจมิได้มาจากแฟนานุแฟนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชนปฏิรูป

แต่อาจมาจากพรรคประชาธิปัตย์ อาจมาจากพรรคภูมิใจไทย อาจมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพรรคเพื่อไทย

ผลก็คือ ไม่เพียงแต่พรรคอนาคตใหม่จะได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในทางสังคม หากบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็ได้รับความสนใจ

เห็นได้จากการหลั่งไหลเข้าร่วมงานฟิวเจอริสต้า เดินหน้าที่จังหวัดเชียงใหม่

เห็นได้จากการรอคอยการกลับของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล มิได้เป็นเพียงนักการเมืองคนสำคัญของประเทศ หากแต่แม้กระทั่งต่างประเทศก็เฝ้าติดตาม

เท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับพรรคอนาคตใหม่

ในบรรดาพรรคที่เกิดใหม่ในยุคแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ต้องยอมรับว่า พรรคอนาคตใหม่โตเร็วอย่างยิ่ง ประสบความสำเร็จสูง อย่างยิ่ง

โดยไม่ได้มีการใช้ “พลังดูด” โดยไม่มี “หัวคะแนน”

ยิ่งหลังเลือกตั้งบทบาทของคสช. บทบาทของกกต.ยิ่งมีส่วนหนุนเสริมให้โดดเด่น

ความโดดเด่นนี้ย่อมเป็นสิ่งท้าทายในโลกสมัยใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน