FootNote : ความเป็นไปได้ ความเป็นไปไม่ได้ เรื่องเหลือเชื่อ โต๊ะเจรจาการเมือง

ไม่ว่าข่าวการยื่นข้อเสนอต่อพรรคพลังประชารัฐให้ตัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตัด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกไปจากสมการ การจัดตั้งรัฐบาล

ไม่ว่าข่าวการเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้เป็นคู่แข่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ถือได้ว่าเป็นข่าวประเภท “เหลือเชื่อ”

เหลื่อเชื่อเหมือนกับข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลแห่งการปรองดอง พร้อมกับเสนอตัวบุคคลที่มิใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาเสร็จสรรพ

ข่าวแบบนี้สามารถก่อนวันที่ 24 มีนาคมไม่มีโอกาสอย่างเด็ดขาด แต่พลันที่ผ่านการเลือกตั้งความเป็นไปได้จึงมีขึ้น

ทั้งหมดนี้สะท้อน “ปรากฏการณ์”อะไร

หากมองจากด้านของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่และพันธมิตรต่อต้านการสืบทอดอำนาจคสช. นี่ย่อมแสดงความเบื่อหน่ายที่ดำรงอยู่ในห้วง 3 ปีหลังรัฐประหาร

เพียงแต่ในห้วงก่อนวันที่ 24 มีนาคม มิได้มีความกล้าในการแสดงออกอย่างเปิดเผย

ข่าวในลักษณะนี้จึงไม่น่าจะมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือพรรคประชาชนปฏิรูป เป็นอันขาด

แต่ไม่แน่ว่าจะหลุดออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่

เพราะการตัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ การตัด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เท่ากับเป็นการตัดตัวเลือกอันเคยเป็นไฟท์บังคับในห้วงแห่งการเจรจา

ความหมายหมายความว่าอำนาจการต่อรองของคสช.ผ่านพรรคพลังประชารัฐเริ่มลดลง

ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สรุปอย่างรวบรัดว่า คสช.กำลังอยู่ในสถานะ “ขาลง”ในทางการเมือง ก็ได้รับการยืนยันอย่างเห็นเป็นรูปธรรมเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐได้มาเพียง 115 เสียง

มีความจำเป็นต้องพึ่งพิง 52 จากพรรคประชาธิปัตย์ 51 จากพรรคภูมิใจไทย และ 10 จากพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้แตะเข้าไปเกิน 251

อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้บนโต๊ะเจรจาทางการเมือง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน