การเสียชีวิตของ พลทหารยุทธภินันท์ บุญเนียม ในความรับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ 45
สะท้อน “จุดเปลี่ยน”
คล้อยหลังการร้องเรียนจาก “ครอบครัว” ของผู้เสียชีวิตไม่นานก็ได้การขานรับอย่างตื่นตัว
ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ของ “มทบ.45”
หากแต่แม้กระทั่งสำนักผู้บังคับบัญชาแห่งกองทัพภาคที่ 4 ก็มิได้ดูดาย
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ลงมาเอง
เมื่อเรื่องจาก “กองทัพภาคที่ 4” ถึงสำนักผู้บังคับบัญชาแห่งกองทัพบก
ท่าทีของ “ผบ.ทบ.”เด่นชัด
แถลงจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.สะท้อนความรับรู้ในสถานการณ์ครบถ้วน
ครบถ้วนและเป็นจริง
เริ่มจากแสดงความ “เสียใจ” ต่อครอบครัวของพลทหาร ตามมาด้วยคำ “ขอโทษ”
หากมองอย่าง “เปรียบเทียบ”
จะเห็นได้อย่างเด่นชัดต่อท่าทีของ “กองทัพบก” อย่างที่เรียกได้อย่างเต็มปาก เต็มคำว่า
คือ ท่าทีอันเป็น “สุภาพบุรุษ”
สุภาพบุรุษอันผ่านการฝึกอบรมบนพื้นฐานแห่ง “ระบบเกียรติศักดิ์”
อย่างที่เรียกว่า HONOR SYSTEM
คำ “ขอโทษ” อันออกมาจากปาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ดำเนินไปอย่างสุภาพ นอบน้อม
มิได้กินความเฉพาะ”ครอบครัว”
ตรงกันข้าม ชัดถ้อยชัดคำอย่างยิ่งว่าเป็นการเอ่ยคำ “ขอโทษ” ต่อ “สังคม”
ยืนยันถึงลักษณะ “สำเหนียก” ตระหนัก
เพราะนับแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ทหารและกองทัพได้ตกเป็น “เป้า” สังคมได้จับตาและติดตามบทบาทมาอย่างชนิดเกาะติด
เรื่อง “การตาย” จึงมากด้วย”ความอ่อนไหว”
