FootNote:สัญญาณ ปล้นทอง นาทวี สัญญาณ ชายแดน ภาคใต้
ปรากฏการณ์แห่งการปล้นห้างทองสุธาดา กลางตลาดนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อบ่ายวันที่ 24 สิงหาคม กำลังจะกลายเป็นสัญญาณหนึ่งในทางการเมือง
เหมือนกับที่เคยมีปรากฏการณ์การก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและภาคกลางตอนล่างเมื่อสิงหาคม 2561
อันนำมาสู่การลอบวางระเบิดเดือนสิงหาคม 2562
จะต่างก็เพียงแต่ปรากฏการณ์ที่ตลาดนาทวี สงขลา เป็นการปล้นร้านทอง และสามารถกวาดทองคำไปเกือบเกลี้ยงร้านมูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท
หากเบาะแสและร่องรอยชี้ไปเป็นปฏิบัติการอันสัมพันธ์กับขบวนการก่อการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นี่ย่อมเป็น”สัญญาณ”แห่งการขยายกรอบออกไป
จากปรากฏการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มายังปรากฏการณ์ในเดือนสิงหาคม 2562 มีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นการขยายปฏิบัติการณ์ในเชิงพื้นที่
นั่นก็คือขยายจากที่เคยปฏิบัติการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รุกคืบมาถึง หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
ทะลวงผ่านกระบี่ ผ่านสุราษฎร์ธานี
และพลันที่ปรากฏสถานการณ์ในเดือนสิงหาคม 2561 นั่นเท่ากับก่อการได้แม้กระทั่งในกรุงเทพมหานคร ใจกลางการปกครอง
เช่นเดียวกับการเปิดปฏิบัติปล้นร้านทองกวาดมูลค่าเกือบ 22 ล้านบาทไปอยู่ในมือ
นั่นก็คือการขยายพื้นที่ของการหาทุนอย่างมีนัยสำคัญ
หากปฏิบัติการกลางตลาดนาทวี สงขลา มีเป้าหมายเพื่อการ หาทุนแนวโน้มและความเป็นไปได้ก็จะยิ่งใช้ความจัดเจนทางการทหารไปสู่ปฏิบัติการปล้มสะดมได้
ความแจ่มชัดในเรื่องหลักฐานความเป็นจริงจึงสำคัญ
เคยมีคำมั่นจากนายทหารที่เคยมีบทบาทในการก่อรัฐประหารเมื่อ เดือนกันยายน 2549 ว่าหากความรับผิดชอบเป็นของทหารอย่าง เบ็ดเสร็จเด็ดขาดปัญหาชายแดนภาคใต้ก็จะจบ
จากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 มายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ไม่เพียงแต่ยังไม่จบ หากแต่ยังทำท่าว่าจะขยายเข้ามายังกรุงเทพมหานครด้วยซ้ำไป