วิกฤตเศรษฐกิจ
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
วิกฤตเศรษฐกิจ – ไม่ว่าจะเลือกใช้คำว่าวิกฤต ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือเป็นเพียง “การถดถอย” อย่างที่ผู้บริหารในรัฐบาลพยายามยืนยัน
แต่ความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ภาวะเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นส่วนรวมหรือด้วยปัญหาปากท้องของประชาชนในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง และต้องการมาตรการเยียวยา-แก้ไขอย่างเร่งด่วน
ความเป็นจริงที่ว่านี้พิสูจน์ได้จาก การที่แม้รัฐบาลจะไม่ยอมรับคำว่าเศรษฐกิจตกต่ำหรือวิกฤต แต่กลับอัดฉีดเงินออกมาเพื่อประคับประคองสถานการณ์เป็นจำนวนมโหฬารถึง 300,000 ล้านบาท
ถ้าเศรษฐกิจยังปกติ จะต้องอัดฉีดมหาศาลเช่นนี้ทำไม
ในด้านหนึ่ง ก็ต้องเอาใจช่วยและให้การสนับสนุนให้มาตรการพยุงฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ และการบรรเทาความทุกข์ยากเรื่องการกินอยู่ของประชาชน ให้เดินหน้าต่อไปได้
แต่ในขณะเดียวกัน การวิพากษ์วิจารณ์และชี้จุดอ่อนเพื่อให้เกิดการปรับปรุงนโยบายให้มีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดได้ก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้เงินงบประมาณ อันมีที่มาจากภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลเช่นนี้
แล้วถามว่า จุดอ่อนหรือสิ่งที่ควรปรับปรุงของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้นมีอะไร
ผู้รู้และนักวิชาการหลายท่านชี้ประเด็นเอาไว้ก็คือ
มาตรการที่ออกมา ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้เพิ่ม อันจะเป็นการปรับโครงสร้างและแก้ไขปัญหาพื้นฐานของสังคมในระยะยาว
แต่กลายเป็นมาตรการที่เพิ่มความมั่งคั่งให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ อันมีตัวเลขยืนยันได้จากฐานส่วนตัวและกำไรของผลประกอบการทางธุรกิจในรอบหลายปีที่ผ่านมา
การเปิดพื้นที่หรือสร้างโอกาสให้กับ “รากหญ้า” ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดในรอบนี้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน
และการพยุงฐานะหรือสร้างโอกาสให้คนส่วนใหญ่ “เงิน” มิใช่ปัจจัยเดียว แต่จะต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ
โดยเฉพาะการทำให้กฎกติกาในการแข่งขันหรือการเข้าถึงทรัพยากรมีความเท่าเทียมกัน