คอลัมน์ ออกจากกรอบ : ฮักเชิล คิม

หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เมื่อนานมาแล้วสมาชิกคนหนึ่งของมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประเทศเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุถูกเลื่อยไฟฟ้าที่ใช้ตัดไม้ตัดนิ้วขาด 5 นิ้วขณะกำลังทำงานก่อสร้าง เขาเข้ารับการผ่าตัดนานถึง 10 ชั่วโมงเพื่อเชื่อมต่อเส้นเอ็น เส้นประสาทและกระดูก การผ่าตัดสำเร็จผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากนั้นคุณหมอพูดกับเขาว่า “หน้าที่ของหมอจบลงแล้วนะครับ ผมต่อนิ้วกลับเข้าที่เดิมแล้ว แต่นิ้วของคุณจะมีชีวิตหรือตาย อยู่ที่จิตใจคุณแล้วครับ”

พร้อมกำชับห้ามคิดในเชิงลบ และเชื่อคำพูดของหมอ ‘ไม่ว่าสภาพของนิ้วจะแย่ขนาดไหนก็ตาม’

ระหว่างรักษาตัว ชายหนุ่มเตียงข้างๆ ที่เกิดอุบัติเหตุนิ้วขาด 2 นิ้ว เขาเครียดมาก ไม่กิน ไม่นอน ไม่ยอมพูดจากับใคร นางพยาบาลคนหนึ่งทนเห็นไม่ได้จึงเข้าไปคุยกับเขา แต่ชายคนนี้ไม่ยอมเงยหน้าคุยด้วย เธอจึงโมโหและตบหลังคนไข้คนนี้อย่างแรงแล้วพูดว่า “แค่สองนิ้วเอง เธอจะซึมอะไรขนาดนั้น แล้วคนไม่มีมือเขาต้องฆ่าตัวตายเลย ตั้งสติหน่อย”

สมาชิกมูลนิธิของเราที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ จึงเริ่มสะท้อนกลับมาคิดว่า การจมอยู่ในความคิดที่หวาดกลัวและกังวลแบบนี้เป็นสิ่งที่โง่มาก วิธีการเดียวเลยครับที่นิ้วจะกลับมามีชีวิตได้คือ ต้องเชื่อมโยงกับหัวใจ เลือดต้องไหลเวียนเรื่อยๆ แต่หัวใจจะทำงานได้อย่างปกติหรือไม่ สภาพจิตใจของคนไข้ก็เป็นปัจจัยสำคัญ

อุบัติเหตุนิ้วขาดนี้ทำให้ผมคิดถึงประสบการณ์ของตัวเอง ครั้งสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้สามปีติดต่อกัน และไม่นานก็ขี่รถจักรยานชนกับรถยนต์ราคาแพง จนฟันหน้าหัก ซ้ำยังไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลตัวเอง

ตอนนั้นผมได้แต่ร้องไห้ เฝ้ากล่าวโทษและพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ผ่านไปจนทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเผยถึงความทุกข์ให้คนรอบข้างฟัง พวกเขาให้คำปรึกษา และว่ากล่าวตักเตือน ไม่มีคำปลอบโยนเลยครับ แต่เมื่อลองตัดความรู้สึกไม่พอใจและอคติออกไป ก็สัมผัสได้ถึงจิตใจที่แท้จริงของคนๆ นั้น

สิ่งหนึ่งที่ได้รู้คือ ตัวเองไม่สามารถแก้ไขปัญหาคนเดียวได้ เมื่อปัญหาเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือ การเชื่อมต่อกับคนรอบข้างครับ

เมื่อลองจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามที่คนอื่นแนะนำ ตามจริงแล้วผมต้องใช้เงินเกือบสี่แสนบาท เพื่อซ่อมรถและรักษาตัว แต่ผมกลับพบว่า ฝ่ายเจ้าของรถที่เป็นผู้เสียหายก็ไม่ขอรับค่าซ่อม ผมได้รับการรักษาฟันโดยผ่านทางสมาชิกมูลนิธิฯ คนหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สิ่งที่เกิดขึ้นต่างจากความกังวลที่เคยจินตนาการโดยสิ้นเชิง

ผมคิดว่าผมเหมือนนิ้วที่ขาด และได้รับการผ่าตัดรักษา มีหัวใจสูบฉีดเลือดไปสุดปลายนิ้ว จนนิ้วกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เหมือนสมาชิกของเราคนนี้ที่สุดท้ายแล้วนิ้วทั้งห้าของเขาก็กลับมาขยับได้ เพราะจิตใจของเขาเชื่อมต่อกับแพทย์ที่รักษาเขาครับ


ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
FB : Mind World by Kim Hak Cheol, Ph.D.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน