กระตุ้นvsละลาย

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

กระตุ้นvsละลาย – หากวัดกระแสการตอบรับมาตรการชิมช้อปใช้ช่วงแรกนี้ รัฐบาลประเมินว่าภาพรวมน่าพอใจ และอาจมีแผนออกชิมช้อปใช้ระยะสอง

ส่วนฝ่ายค้านมองมุมที่แตกต่างไป ว่ามีปัญหาความไม่พร้อมและเร่งรีบในการใช้เงิน พร้อมคาดเดาผลว่าจะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

แน่นอนว่าฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านมักมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่สิ่งที่จะช่วยตัดสินมาตรการนี้ได้ดี คือตัวเลขทางเศรษฐกิจ และบรรยากาศการใช้เงินของประชาชน

นอกเหนือจากผู้ที่ใช้ระบบออนไลน์ขอใช้สิทธิลงทะเบียนเป็นแล้ว ยังต้องดูภาพรวมประชาชนทั้งหมด เพราะเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่ลงทะเบียนเป็นเท่านั้น

กระทรวงการคลังแจ้งตัวเลขการดำเนินงานโครงการชิมช้อปใช้ว่า การลงทะเบียนรับสิทธิชิมช้อปใช้ช่วง 8 วันแรก มีผู้ลงเต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน

หน่วยงานรัฐได้ส่งเอสเอ็มเอสยืนยันสิทธิให้แก่ผู้ที่ลงทะเบียนช่วง 4 วันแรก วันที่ 23-26 ก.ย. แล้ว 3.11 ล้านคน จากผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 4 ล้านคน

ส่วนยอดการยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่น มีแล้ว 2.5 ล้านคน ในจำนวนนี้ทำเสร็จสมบูรณ์ 1.9 ล้านคน

รัฐโอนเงินให้แล้ว 1,900 ล้านบาท แต่ยอดการใช้จ่าย 3 วันแรก (วันที่ 27-29 ก.ย.) ยังมีปริมาณน้อย กล่าวคือรวมกว่า 300 ล้านบาท

ดังนั้นแรงกระเพื่อมที่มุ่งหมายให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจึงยังอาจไม่เห็นผลในเวลาอันใกล้

แม้เจตนารมณ์มาตรการชิมช้อปใช้คือการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก เพื่อให้เงินได้หมุนไปสู่ชุมชน

ข้อท้วงติงจากฝ่ายค้านคือ โครงการนี้ใช้ภาษีของประชาชนที่ดึงมาจากงบกลาง แต่ประชาชนกว่า 40 ล้านคนอาจไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบดังกล่าว ทั้งจากคนและระบบที่ไม่พร้อม

อีกทั้งมองว่าการเดินทางข้ามจังหวัดไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะโดยธรรมชาติของการเที่ยว คนจะเดินทางเมื่อรู้สึกมีฐานะมั่นคงทาง การเงินแล้ว

เหมือนครั้งหนึ่งที่ชาวนาผู้ปลูกข้าวได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง ความรู้สึกมั่นคงที่จะใช้จ่ายหรือคำนวณเงินสำหรับการท่องเที่ยวจะชัดเจน ตั้งแต่ฐานราก

..อ่าน..

เพื่อไทย จวกยับ! ชิมช้อปใช้ โครงการน่ารังเกียจ ฉะ! มหกรรมตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เหนื่อยเลยทีนี้! ชิมช้อปใช้ ระบบล่ม คนแห่ทิ้งรถเข็นไว้อื้อ คนเดือดร้อนคือพนักงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน