คอลัมน์ ออกจากกรอบ : ฮักเชิล คิม
หนังสือพิมพ์ข่าวสด
‘พวกเรามักจะใช้ชีวิตโดยเชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายที่ไม่ผิด’
เมื่อไม่นานมานี้คุณก้อย (นามสมมติ) ได้ปรึกษาผมถึงเรื่องสามีของเธอที่ไม่พูดคุยกัน สืบเนื่องหลังจากที่เธอปฏิเสธการไปเที่ยวพร้อมหน้ากับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะติดธุระสำคัญ ไม่นานสามีก็เริ่มบึ้งตึง และโกรธใส่เธอ คืนหนึ่งคุณก้อยนอนแล้วขาเผลอไปโดนสามีที่อยู่ข้างๆ สามีจึงเตะกลับมา หลายวันผ่านไป คุณก้อยก็เผลอแกว่งขาไปโดนสามีอีก คราวนี้สามีโมโหกว่าเดิมและเตะกลับอย่างแรง หลังจากนั้นเธอรู้สึกทนไม่ไหว จึงย้ายไปนอนห้องอื่น
หากคุณฟังแบบนี้แล้วคุณอาจจะสงสารคุณก้อยใช่ไหมครับ แต่ผมบอกกับคุณก้อยว่า ที่คุณรู้สึกโกรธ เพราะเชื่อว่าคุณไม่ผิดอะไรเลย คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว แต่สามีดูถูกฉันมากเกินไป
ผมจึงเล่าให้เธอฟัง ถึงเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งที่โมโห ก่อนค้นพบว่าตัวเองเข้าใจผิด
ผู้หญิงคนนี้ไปที่สนามบิน ก่อนเช็กอิน เธอซื้อคุกกี้มากินระหว่างรออยู่บนม้านั่ง มีผู้ชายมานั่งข้างเธอ เธอเห็นว่าผู้ชายคนนั้นกินคุกกี้ที่เธอซื้อมาเหมือนกินของตัวเอง ตอนนั้นเธอรู้สึกโมโหว่าทำไมผู้ชายคนนี้ต้องมากินคุกกี้ของเธอ เธอจึงแย่งคุกกี้ไปกินจนหมดและลุกหนี พอจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เธอค้นกระเป๋าเพื่อหาหนังสือเดินทาง เธอกลับค้นเจอคุกกี้ที่ยังไม่ได้เปิด หมายความว่าแท้จริงแล้วคุกกี้ที่เธอกินเมื่อสักครู่นี้ เป็นคุกกี้ของผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ของเธอ
นี่เธอเข้าใจผิดหรือนี่ !!
เธอโกรธจนถึงเมื่อไรครับ เธอสงสัยและโมโหจนถึงจุดที่เธอเปิดกระเป๋า แล้วเจอคุกกี้ตัวเอง เธอรู้แล้วว่าที่โกรธนั้นเป็นสิ่งที่ผิด ถ้าเราเข้าใจในจุดนี้เราจะไม่ตามอารมณ์ของเราไปโดยง่าย
หากคุณก้อยได้เห็นว่า เธอเองก็มีส่วนที่ผิดที่มีคำบ่นกับสามี คิดว่าฉันทำอะไรเพื่อสามีมากมาย ทำไมสามีถึงทำกับฉันแบบนี้ ส่วนลึกในใจจึงมีคำบ่นต่อสามี ถ้าคุณก้อยเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิด คุณก้อยก็จะไม่สามารถโกรธหรือตัดสินสามีตามที่เห็นได้
หากพวกเราใช้ชีวิตโดยที่คิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็จะติดตามอารมณ์ไปอย่างง่ายดาย แต่ถ้าพวกเราใช้ชีวิตโดยที่เชื่อว่าจิตใจของเรานั้นผิด ก็จะไม่สามารถโกรธหรือเกลียดคนอื่นได้
ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
FB : Mind World by Kim Hak Cheol, Ph.D.