เหมือนกับกรณีแอบอ้าง”พระบรมราชานุญาต”ในการจัดสร้าง”พระนาคปรก”ที่อยู่ในมือ”กองปราบปราม”

จะเกี่ยวกับ “วัดอ้อน้อย”

แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ขององค์กรส่งเสริม และปกป้องพระพุทธศาสนา(อสคพ.)ดำเนินไปในลักษณะของมือวาง “บิลเลียด”

อย่างที่เรียกว่า “แคนนอน”

คือ ส่งลูกไปยัง “กองปราบปราม” ชิ่งไปยัง”วัดอ้อน้อย” แต่เป้าจริงอยู่ที่ “พศ.”

ตรวจสอบ “พศ.”

โดยมีคำว่า “สองมาตรฐาน” เป็นคำถามใหญ่ทั้งต่อ”กองปราบปราม”และ”พศ.”

โดยเฉพาะ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์

กรณีแอบอ้าง”พระบรมราชานุญาต”นำไปสู่การเปรียบเทียบอย่าง น้อย 2 เรื่องใหญ่

เรื่อง 1 คือ กรณีการสร้างพระเครื่อง”สมเด็จเหนือหัว”

เรื่อง 1 คือ กรณีที่ดีเอสไอ ตำรวจและพศ.ดำเนินการกับ”วัดพระธรรมกาย”

“กองปราบปราม” เสมอเป็นเพียง”ทางผ่าน”

เป็นทางผ่านไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และโดยตรงกับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้เอาการเอางานยิ่งในกรณี”วัดพระธรรมกาย”

หากเป็นเรื่อง “วัดอ้อน้อย” ทางด้านตำรวจและทางด้านพศ.จะทำอย่างไร

เรื่อยๆมาเรียงๆหรือไม่

กระนั้น หากติดตามกรณี”พระบรมราชานุญาต”ก็แทบมิได้เป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการ

เพราะมีกรณีพระเครื่อง”สมเด็จเหนือหัว”เป็นคดีตัวอย่าง

คนที่ดำเนินการและรับผิดชอบกรณี”สมเด็จเหนือหัว”ได้ถูกคำพิพากษาของศาลไปเรียบร้อยแล้ว

แอบอ้าง”พระบรมราชานุญาต”จริง ติดคุก 5 ปี

การแอบอ้าง”พระบรมราชานุญาต”ในกรณีสร้างพระเครื่อง “สมเด็จเหนือหัว” อาจเป็นเรื่องของฆราวาส

แต่กรณีของ”วัดอ้อน้อย”เป็นเรื่องของ”พระ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน