ผบ.เป็นส.ว.
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ผบ.เป็นส.ว. – การบรรยายพิเศษของผู้บัญชาการทหารบก หัวข้อเรื่อง ‘แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง’ ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่มีเนื้อความแปลกใหม่มากนัก หากเปรียบเทียบกับครั้งก่อน
อาจไม่ต่างจากความคิดในยุคที่สังคมเกิดความขัดแย้งรุนแรง รวมถึงสมัย 14 ตุลา ที่ผ่านมาครบ 46 ปีในวันนี้
ช่องว่างทางความคิดและความเชื่อยังคงเป็นช่องว่างห่างจากกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยอยู่เช่นเดิม และยังไม่มีท่าทีพยายามทำความเข้าใจ หรือเปิดใจใดๆ
เช่นเดียวกับการวางตำแหน่งของตนเองตามยุทธศาสตร์การรบ ผลักให้คนต่างความคิดไปอยู่ขั้วตรงข้ามราวกับเป็นศัตรู ปลุกแนวร่วมเพื่อโจมตีศัตรู
ยังคล้ายเดิมหรืออาจเข้มข้นกว่าเดิม
ปกติแล้ว การแถลงข่าวหรือการบรรยายพิเศษของผู้นำกองทัพสู่สาธารณชนของนานาประเทศประชาธิปไตย มักเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับบทบาทและภารกิจทางทหารโดยตรง ไม่มีประเด็นเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับการเมือง
แต่สำหรับผู้บัญชาการทหารบกของไทย อาจไม่นับว่าล้ำเส้น เนื่องจากมีอีกบทบาทหนึ่งคือการเป็นสมาชิกวุฒิสภาของฝ่ายนิติบัญญัติ
ประเด็นที่น่าใคร่ครวญจึงอยู่ที่ว่า บรรดาผู้นำกองทัพควรดำรงตำแหน่งเป็นส.ว. หรือไม่
เมื่อการสวมบทบาททั้งสองตำแหน่งพร้อมกันนี้ไม่มีกลไกเชื่อมโยงกับประชาชน แตกต่างจากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อพูดถึงการเมืองจึงทำให้ขาดข้อมูลและความเข้าใจในหลายๆ เรื่อง
ไม่ว่า การเสวนาของนักวิชาการและสมาชิกพรรคการเมืองเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ การถ่ายรูปคู่ของผู้นำพรรคการเมืองกับบุคคลดังด้านประชาธิปไตยของฮ่องกง หรือการทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนของผู้แทนในจังหวัดชายแดนใต้
พร้อมด้วยข้อกล่าวหาเผาบ้านเผาเมือง ชักศึกเข้าบ้าน ล้างสมองคนรุ่นใหม่ ฯลฯ ดูประหนึ่งว่าเป็นสงครามรูปแบบใหม่และภัยต่อความมั่นคง
การพูดในแง่ร้ายที่อาจมาจากความเชื่อผิดๆ หรือคิดโฆษณาชวนเชื่อ ล้วนสร้างบรรยากาศที่น่าวิตก เสี่ยงต่อการปลุกเร้าความเกลียดชังและหวาดระแวงกันในสังคม
ทั้งที่กองทัพควรสนับสนุนความปรองดอง ความสามัคคี และเปิดมิติสู่การพัฒนาประชาธิปไตยร่วมกับประชาชน