ชิมช้อปใช้ เฟส 2

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ชิมช้อปใช้ เฟส 2 – ประเด็นหนึ่งที่ส.ส.อภิปรายและพูดถึงบ่อยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณางบประมาณปี 2563 คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชิมช้อปใช้ ปี 2562 เป็นโครงการแจกเงินให้ประชาชน จำนวน 10 ล้านคน คนละ 1,000 บาท

ส.ส.ฝั่งรัฐบาลระบุว่าได้ผลดี มีประชาชน ชื่นชอบ ส่วนส.ส.พรรคฝ่ายค้านพูดคล้ายกันว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ลงไปไม่ถึงประชาชนรากหญ้า กระจายอยู่แต่ในกลุ่มผู้ใช้สมาร์ตโฟน

แม้ว่าการประเมินผลที่แน่ชัดยังไม่ออกมาเนื่องจากต้องรอถึงสิ้นปี แต่รัฐบาลตัดสินใจเดินหน้ามาตรการนี้ต่อทันทีในเฟส 2

ระบุว่าเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจจากมาตรการระยะแรก

โครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 เปิดให้ผู้ที่ไม่เคย รับสิทธิ์ มาลงทะเบียนรอบใหม่เพิ่มอีก 3 ล้านคน ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. จำกัดจำนวนวันละ 1 ล้านคน และใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562

กระทรวงคลัง เจ้าของโครงการนี้ ให้เหตุผลที่ต้องเริ่มเฟส 2 ทันทีว่า เพื่อประคองเศรษฐกิจ ให้การขยายตัวได้ใกล้เคียงที่เป้าหมายร้อยละ 3 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ไม่สู้ดี

ด้วยเป้าหมายและการดำเนินการดังกล่าวแม้จะดูว่าไม่มีทางเลือกมากนัก แต่สิ่งที่พึงระวังตามที่สมาชิกฝ่ายค้านติติงไว้ คือผลกระทบที่โครงการไม่ครอบคลุมประชาชนที่ขาดโอกาส หรือด้อยโอกาส

อาจสวนทางกับนโยบายที่รัฐบาลระบุว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

หากจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การประเมินผลโครงการนี้ รวมถึงมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจอื่นๆ ต้องแม่นยำและมีรายละเอียดทางสังคมที่ชัดเจน ไม่เป็นเพียงตัวเลข

มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 1 ที่เปิดรับลงทะเบียน 10 ล้านคน และให้มีการใช้จ่ายภายใน 14 วัน ผ่านกระเป๋า 1 แล้วกว่า 9,000 ล้านบาท ส่วนงบประมาณอุดหนุน เฟส 2 มีอีก 2,000 ล้านบาท

เงินที่อัดฉีดอยู่นี้ รัฐบาลอาจติดตามได้จากข้อมูลบิ๊กดาต้าที่เก็บไว้ แต่ประชาชนที่อยู่นอกระบบออนไลน์อีกจำนวนไม่น้อย จะเข้าถึงได้อย่างไร

การกระตุ้นเศรษฐกิจจากชนชั้นกลางอาจช่วยเรื่องตัวเลขสถิติได้ แต่รัฐบาลเองก็รู้ว่า เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจริงๆ ต้องตั้งต้นจากฐานราก ใช่หรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน