FootNote : งานใหญ่ กรรมาธิการ พลังประชารัฐ ชำระล้าง กรรมาธิการ ป.ป.ช.เดิม
พลันที่ นายสิระ เจนจาคะ ยืนยันภาระธุระแรกสุดในการเข้ามาเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ คือการเปลี่ยนตัว “ประธาน”
แสงแห่งสปอตไลต์ก็ฉายจับไปยังคณะกรรมาธิการป้องกันและ ชปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบโดยอัตโนมัติ
สะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนตัวกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐมาเป็น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กับ นายสิระ เจนจาคะ ดำเนินไปตามยุทธศาสตร์ของพรรค
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ ยืนยันว่าสามารถ “ล็อบบี้” กรรมาธิการ มาได้แล้ว 8 ใน 15 บนพื้นฐานที่ประธานคณะกรรมาธิการตามมารยาทไม่สามารถออกเสียงได้
การประชุมวันที่ 20 พฤศจิกายน จึงทรงความหมาย
ต้องยอมรับว่าการดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มีผลสะเทือน
ผลสะเทือนจากมติเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
รวมทั้งการเชิญ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
นี่คืองานแรก ๆ ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
ปัจจัยสำคัญก็คือ ทุกอย่างดำเนินไปตาม “มติ” ของที่ประชุม มิได้เป็นไปตามใจของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เพียงผู้เดียวแต่อย่างใด
ตรงนี้แหละคือด่านหินที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องประสบ
ด่านหินยิ่งกว่านั้นก็คือ 1 ชื่อเสียงและเกียรติภูมิอัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สะสมมา ในห้วงที่รับราชการกระทั่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญ ชาการตำรวจแห่งชาติ
อีก 1 คือชื่อของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
2 ส่วนนี้สัมพันธ์และเอื้อต่อกันอย่างแนบแน่น
ขณะที่บทบาทของกรรมาธิการจากพรรคพลังประชารัฐกำลังจะเดินสวนกับชื่อของคณะกรรมาธิการ
กลายเป็น “อ-ป้องกัน” และ “อ-ปราบปราม”
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
