จากกรณีนายโจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาฮ่องกงผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนถูกกักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 4 ต.ค. และถูกส่งตัวกลับฮ่องกงในวันที่ 5 ต.ค. หมดสิทธิ์มาร่วมงานรำลึก 40 ปี 6 ตุลา เพื่อกล่าวปาฐกถา “40 ปี 6 ตุลาคนรุ่นใหม่มองอนาคต” ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้จัดงาน “40 ปี 6 ตุลาคนรุ่นใหม่มองอนาคต” ผู้เชิญโจชัว หว่อง มากล่าวปาฐกถา ระบุว่า การปาฐกถาครั้งนี้ เป็นกิจกรรมทางวิชาการที่ได้รับการอนุมัติและสนับสนุนโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง
กรณีโจชัว หว่อง ถูกกีดกันเข้าไทยปรากฏเป็นข่าวต่างประเทศโดยสำนักข่าวชั้นนำของโลก เช่น สำนักข่าวเอพี สหรัฐอเมริกา สำนักข่าวเอเอฟพี ฝรั่งเศส และสำนักข่าวรอยเตอร์ อังกฤษ ฯลฯ ต่างรายงานคำแถลงการณ์ของพรรคเดโมซิสโต ฮ่องกง รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่ตำหนิทางการไทยที่จำกัดเสรีภาพของโจชัว หว่อง โดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งจำกัดสิทธิที่จะเดินทางเข้าดินแดน และเรียกร้องให้ปล่อยตัวโจชัวโดยทันที
เป็นที่สังเกตว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงและในไทย รวมไปถึงมาตรการของรัฐบาลมีความเชื่อมโยงในช่วงเวลาสำคัญของทั้งสองดินแดน
ปีพ.ศ.2557 หรือค.ศ.2014 เกิดการรัฐประหารในไทยในเดือนพ.ค. จากนั้นมีการใช้มาตรการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าการสั่งห้ามชู 3 นิ้วต้านรัฐประหารในที่สาธารณะ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. การสั่งระงับกิจกรรมห้องเรียนประชาธิปไตยภายใน มธ.ศูนย์รังสิต คุมตัวอาจารย์ และนักศึกษาไปปรับทัศนคติ คำสั่งเบรกนักศึกษาใช้ลานโพธิ์จัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ โรงหนังสกาลา-ลิโด้งดฉายภาพยนตร์ “เดอะ ฮังเกอร์เกมส์” ที่มีฉากการชู 3 นิ้ว
ในขณะที่นักศึกษากลุ่มดาวดินสวมเสื้อข้อความ ‘ไม่-เอา-รัฐ-ประ-หาร’ บุกชู 3 นิ้วประท้วงขณะพล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานต้านภัยแล้ง ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 19 พ.ย.2557
ปีเดียวกันที่ฮ่องกง โจชัว หว่อง และเนธาน หลอ ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำนักเรียนนักศึกษา ในกลุ่มชุมนุมประท้วงรัฐบาลจีนครั้งใหญ่ ในชื่อการปฏิวัติร่มเหลือง เรียกร้องให้ฮ่องกงจัดการเลือกตั้งผู้นำโดยตรง ในปี 2560 ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองที่จีนเข้ามามีอิทธิพลบงการ
การประท้วงครั้งนั้นเข้มข้นขึ้นในเดือนกันยายน เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกง นับจากอังกฤษส่งมอบดินแดนฮ่องกงให้ผนวกคืนจีนภายใต้หลักการ หนึ่งประเทศ สองระบบ ในปี 2540 เนื่องจากชาวฮ่องกงจำนวนมากเริ่มไม่สบายใจกับการที่จีนเข้ามามีอิทธิพลทางการเมือง
การประท้วงที่บุกยึดพื้นที่ใจกลางฮ่องกง ในย่านแอดมิรัลตี คอสเบย์ มงก๊ก และจิมซาจุ่ย โดยกลุ่มออคคิวพาย เซ็นทรัล เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 26 ก.ย.-15 ธ.ค.2557 ตอนนั้นสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกงและกลุ่มนักการศึกษา (สกอลาริซึม) รวมอยู่ด้วย กระทั่งหลังจากการประท้วงสิ้นสุดลง กลุ่มของโจชัวและเนธานแยกวงออกมา
ในปี 2558 ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นปี 2559 เกิดกรณีเขย่าขวัญชาวฮ่องกงอีก เมื่อบุคคลในสำนักพิมพ์ไมตี้ เคอร์เรนต์ของฮ่องกง 5 คน ทยอยหายตัวไป คนหนึ่งเชื่อว่าถูกอุ้มจากประเทศไทย จากนั้นแต่ละคนไปปรากฏตัวภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่จีน แม้ว่าต่อมาจะทยอยปล่อยตัว แต่กลายเป็นปมที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นที่สำนักพิมพ์เชื่อว่าเกี่ยวกับการเตรียมตีพิมพ์หนังสือชีวิตรักของสี จิ้นผิง ผู้นำจีน
ในปี 2559 วันที่ 21 ก.ค. ศาลฮ่องกงตัดสินให้แกนนำเยาวชนกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ร่วมเคลื่อนไหวในนามออคคิวพาย เซ็นทรัล 3 คน ได้แก่ โจชัว หว่อง อายุ 19 ปี, เนธาน หลอ อายุ 23 ปี และอเล็กซ์ โจว อายุ 25 ปี มีความผิดตามข้อกล่าวหาชุมนุมโดยผิดกฎหมาย กรณีปีนข้ามรั้วบุกสำนักงานรัฐบาล วันที่ 26 ก.ย. ปี 2557
ช่วงเวลาเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กในชื่ออัยการแห่งชาติและสมาคมเยาวชนพรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่คลิปโจมตีบุคคลต่างๆ ที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาล หนึ่งในนั้นมีโจชัว หว่อง ถูกกล่าวหาว่า มีสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังหวังทำให้จีนไร้เสถียรภาพ ซึ่งโจชัวกล่าวว่า เป็นเรื่องตลกขำขันมาก พรรคคอมมิวนิสต์คงคิดได้แค่ว่า พอเขียนคำว่าเอกราชฮ่องกงแล้ว จะใช้ปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้
ต่อมา ในวันที่ 15 ส.ค. 2559 ศาลเเขวงฮ่องกงมีคำตัดสินโทษให้ทั้งหมดรอดการจำคุก นายโจชัว หว่อง ต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเป็นเวลา 80 ชั่วโมง เนธาน หลอ วัย 23 ปี รับโทษด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเป็นเวลา 120 ชั่วโมง ส่วนนายอเล็กซ์ โจว วัย 25 ปี รับโทษจำคุก 3 สัปดาห์เเต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน
ผู้พิพากษา จูน เฉิง กล่าวว่า คดีนี้แตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป หากพิพากษาโดยได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศตึงเครียดทางการเมืองและใช้โทษจำคุกเพื่อระงับยับยั้ง คงจะไม่ยุติธรรมนัก
คำพิพากษาดังกล่าวทำให้ นายเนธาน หลอ ลงสมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงได้ ในนามพรรคเดโมซิสโต กระทั่งในวันที่ 5 ก.ย. สมาชิกพรรคได้ฉลองใหญ่ เมื่อผลออกมาว่าเนธานชนะการเลือกตั้งโดยได้คะแนนสูงสุดอันดับที่ 2 และมีอายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 23 ปี
เนธานกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งนี้แสดงถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ของประชาชน