FootNote:สถานะเรือเหล็กคลอนแคลน‘สนิม’ย่อมเกิดแต่‘เนื้อใน’ตน
กรณีเสียบบัตรแทนกันกำลังแยก แตกตัว ไม่ต่างไปจากธรรมชาติของอมีบ้าในทางการเมือง นั่นก็คือแตกตัวจาก 1 และ 2 ของพรรคภูมิใจไทย กลายเป็น 3 และอาจเป็น 4 ในพรรคพลังประชารัฐ
กรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ กรณีของ นางนาที รัชกิจประการ อาจสะท้อนเพียงพรรคภูมิใจไทย
เป็นเรื่องระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์
แต่เมื่อมีการปรากฏภาพลับเฉพาะผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นกิจกรรมที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กำลังปฏิบัติการอย่างคึกคัก
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ล้วนเป็นพรรคที่อยู่ในรัฐบาล
และพรรคที่จุดประกายในกรณีนี้คือ พรรคประชาธิปัตย์
หากมองอย่างเข้าใจต่อสภาพการณ์ในทางการเมืองการเปิดโปงอันเริ่มจากพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนการต่อสู้อันแหลมคมระหว่างพรรค ประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้
แต่เนื่องจากไม่ว่ากรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ไม่ว่ากรณีของ นางนาที รัชกิจประกร มากด้วยสีสัน
นั่นก็คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ เดินทางไปพัทลุง นั่นก็คือ นางนาที รัชกิจประกร เดินทางไปเยือนจีน ในห้วงที่มีการประชุมวาระ 2 วาระ 3 ร่างพรบ.งบประมาณ
บรรยากาศของข่าวจึงสะท้อนการเคลื่อนไหวและสร้างปฏิกิริยาอย่างคึกคัก
ความคึกคักนั้นเองที่ส่งผลสะเทือนทำให้สถานีช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณตระหนักว่าตนก็มีคลิปวิดิโออยู่ในมือ
กรณีเสียบบัตรแทนกันจึงกลายเป็น”ไวรัล”โดยอัตโนมัติ
ความน่าสนใจอย่างเป็นพิเศษมิได้อยู่ที่ว่าไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นตัวละครโดยตรงคือพรรคร่วมรัฐบาล
แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
เป็นรัฐบาลที่เรียกกันว่า “เรือเหล็ก” ซึ่งพัฒนาการมาจากรัฐบาล”เรือแป๊ะ” ซึ่งพัฒนาการมาจากผลพวงแห่งรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ปัญหาและความขัดแย้งอันกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวและส่งผลสะเทือนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลจึงล้วนเป็นเรื่องภายใน
เข้าทำนอง “สนิม” ซึ่งเกิดมาแต่”เนื้อใน”ของตนครบถ้วน