เหมือนกับความอึกทึก ครึกโครม จากกรณี “อโลฮา ฮาวาย”จะเป็น เรื่องของ “คนนอก”
นั่นก็คือ คนนอก”ปั่น”กระแส
หากใช้สำนวน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ก็ต้องว่า
“คนกลุ่มนั้น” หรือ “คนฝั่งนั้น” หรือ “บางกลุ่ม” หรือ”กลุ่มผู้ไม่หวังดี”
กระนั้น หากติดตามสภาพเลื่อนไหลของข่าวสารอันเกี่ยวกับกรณี “อโลฮา ฮาวาย” ก็จะได้คำตอบเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่าดำเนินไปเหมือนกับ
กรณีของ “แม่ผ่องพรรณพัฒนา”
นั่นก็คือ เป็นเรื่องของ “คนกลุ่มนี้” เป็นเรื่องของ “คนฝั่งนี้”อันเป็นฝั่งเดียวกันกับ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด นั้นหละ
เป็นเรื่องของ”คนใน”อย่างชนิดว่า”เม็ดใน”
ถามว่ารายละเอียดการเดินทาง รายละเอียดค่าเดินทาง มาจากการเนรมิตขึ้นของ “คนกลุ่มนั้น” หรือ
ตอบได้เลยว่า ไม่ใช่
กรณีของ”แม่ผ่องพรรณพัฒนา”ก็เป็นเว็บไซต์ของสำนักงาน ปลัดกระทรวงกลาโหม(สป.กห.)
ในสังกัดของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา นั่นเอง
กรณีของ “อโลฮา ฮาวาย” ก็เป็นเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิ การคณะรัฐมนตรี(สลน.)
ใน”ทำเนียบรัฐบาล”นั่นเอง
จากนั้น เรื่องก็บานไปยัง “คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น”ในค่ายเอกาทศรถ จังหวัดทหารบกพิษณุโลก
จากนั้น เรื่องก็บานไปยัง “รายชื่อ” ผู้ร่วม”ทริป”
ยิ่งมีความพยายามจะปิด ไม่ยอมเปิดเผย มาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ยิ่งกลายเป็นเรื่อง
อยาก”ปิด” แต่ก็มี “เปิด”
กรณีของ “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” และกรณีของ”อโลฮา ฮาวาย”จะใช้หลัก”กระชับพื้นที่”ไม่ได้
จำเป็นต้อง”เปิด”พื้นที่
เรียกตามสำนวนที่ชอบใช้กันอย่างยิ่งในกรณี”อุทยานราชภักดิ์”ก็คือ
เมื่อไม่ได้”โกง”จะ”กลัว”อะไร
เมื่อไม่ได้ทำ”ผิด”จะ”กลัว”อะไร เปิดออกมาให้หมดเลยว่าในจำนวน 38 คนนั้นเป็นใคร
เดินทาง”ร่วม”คณะไปด้วยเหตุผลอย่างไร
ที่สำคัญก็คือ มีหน้าที่การงานและมีความจำเป็นอย่างไรที่ขาดไม่ได้
มีแต่ต้อง”โปร่งใส”จึงจะไร้”มลทิน”
