ไวรัสโคโรนา

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

โดย…น้าชาติ ประชาชื่น

ไวรัสโคโรนา : รู้ไปโม้ดโดย…น้าชาติ ประชาชื่น – น้าชาติ เชื้อโรคใหม่น่ากลัว โคโรนาไวรัส ขอรายละเอียดด้วย

พีพี

ตอบ พีพี

ทางการจีนยืนยันเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2562 เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น เมื่องที่มีประชากรกว่า 11 ล้านคน ในมณฑลหูเป่ย ภายหลังมีการเก็บตัวอย่างไวรัสจากคนไข้นำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เวลาต่อมาจีนและองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุชื่อเรียกไวรัสชนิดนี้ว่า “ไวรัสโคโรนา”

ซึ่งมีทั้งหมด 6 สายพันธุ์ที่เคยเกิดการระบาดในมนุษย์ สำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดเป็นสายพันธุ์ที่ 7 ทั้งนี้ เชื้อไวรัสโคโรนาส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย แต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนสายพันธุ์นี้ทำให้มีการระบาดของโรคปอดอักเสบ

คนไทยรู้จักไวรัสในตระกูลนี้มาแล้วจากโรคซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกัน พบการระบาดครั้งแรกปลายปี 2545 โดยเริ่มจากพื้นที่มณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน ก่อนกระจายไปยังหลายประเทศ มีผู้เสียชีวิต 774 คน จากจำนวนผู้ป่วย 8,098 คน

ไวรัสโคโรนาเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการตั้งแต่เป็นหวัดเพียงเล็กน้อยไปจนถึงการป่วยรุนแรงจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ทางการจีนยืนยันว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ติดต่อกันได้จากคนสู่คน ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2563 คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถิติผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่าเพิ่มขึ้นเป็น 80 ราย

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเป็น 3,000 ราย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น และเชื่อว่าอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านและเดินทางไปต่างประเทศกันเป็นจำนวนมาก

สัญญาณบ่งบอกถึงการติดเชื้อคืออาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ หายใจติดขัด และมีปัญหาในการหายใจหลายอย่าง การวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์ใหม่พบว่ามีความใกล้เคียงกับซาร์สมากกว่าไวรัสโคโรนาที่พบในมนุษย์สายพันธุ์อื่นๆ โดยองค์การอนามัยโลกเชื่อว่าต้นตอของไวรัสมาจากสัตว์ที่ติดเชื้อที่ตลาดขายอาหารทะเลและสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่น

ยังมีข้อมูลจากเว็บไซต์เดอะ สแตนดาร์ด ว่าเดิมทีโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์สที่เคยระบาดหนักใน 37 ประเทศทั่วโลก เป็นเชื้อที่ติดต่อจากคนสู่คน ไม่ใช่เพียงแค่การติดต่อจากสัตว์สู่คน มีอาการสำคัญ ได้แก่ มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ โดยสาเหตุที่เชื้อไวรัสชนิดนี้ถูกเรียกว่าโคโรนาเป็นเพราะหากส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนจะพบว่าเชื้อชนิดนี้มีลักษณะเป็นวงกลม และมีขายื่นออกมาจากตัวเชื้อ

ส่วนต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนา จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นในประเทศจีนพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในตลาด หรือมีประวัติเดินทางไปที่ตลาดค้าส่งอาหารทะเลแห่งหนึ่งกลางเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่นๆ

ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ถ้าดูข้อมูลจากระบาดวิทยาจะเห็นได้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนามีอยู่ 6 สายพันธุ์ดั้งเดิม โดยมี 2 ตัวที่รุนแรงคือซาร์สและเมอร์สอีก 4 ตัวจะมีอาการไม่รุนแรงมาก เต็มที่จะเป็นเพียงไข้หวัด ขณะที่สายพันธุ์ใหม่จะอยู่ในระหว่างตรงกลาง

เมื่อเปรียบเทียบกับซาร์สจะพบว่าผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 10% หรือ 1 ใน 10 ของผู้ป่วย ส่วนเมอร์สผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 30% หรือ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม โรคที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ยังไม่สามารถสรุปในทันที ต้องรอข้อมูลประกอบที่ถูกต้องและครบถ้วน

จากข้อมูลที่กรมควบคุมโรคเทียบเคียงกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิม เบื้องต้นประเมินว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่มีระยะฟักตัวระยะสั้น คือตั้งแต่ 2-14 วัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่มีการประกาศเตือนให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ให้สังเกตอาการของตนเองเป็นเวลา 14 วันเพื่อ เช็กร่างกายว่าป่วยหรือไม่

สำหรับคนทั่วไปน่าจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์ แต่จะมีบางกรณีที่แสดงอาการเร็วกว่าหรือช้ากว่านั้น จึงตั้งกรอบเวลา 14 วันเพื่อให้สังเกตอาการ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วมีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกับให้รายละเอียดประวัติการเดินทาง ซึ่งจะทำให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมในเวลาอันรวดเร็ว

[email protected]

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน