คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

เหตุวางระเบิดในกรุงเทพฯที่ติดกันสองเหตุการณ์ภายในเดือนเดียวขณะนี้ บ่งบอกถึงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

โดยเฉพาะเมื่อสถานที่แห่งแรกอยู่ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน และหน้าโรงละครแห่งชาติ ถือเป็นพื้นที่ล่อแหลม

ส่วนแห่งที่สองอยู่ภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีความล่อแหลม ที่เป็นสากล เพราะโรงพยาบาลเป็นสถานที่ต้องได้รับการยกเว้นจากความขัดแย้งทุกเรื่องทุกสถาน การณ์

ไม่ว่าโรงพยาบาลแห่งนั้นๆ จะเป็นหน่วยงานในสังกัดของรัฐ เอกชน หรือหน่วยงานใดๆ ก็ตาม

การประณามผู้ก่อเหตุทั้งสองเหตุการณ์ที่มี ผู้บาดเจ็บจึงเป็นเรื่องที่บุคคลและองค์กรต่างๆ แถลงเพื่อต่อต้านความรุนแรง

ในขณะเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงพยายามสอบสวนหาสาเหตุและผู้ก่อการ

เรื่องที่ต้องระมัดระวังในช่วงเวลานี้คือการด่วนสรุปว่าเหตุเกิดจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และ น่าจะเป็นฝีมือของใครหรือกลุ่มใด โดยไม่รอผลการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่

โดยเฉพาะการใส่ร้ายหรือพูดหาประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่รับผิดชอบต่อผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ และไม่คำนึงถึงการสร้างความขัดแย้งในสังคม

เป็นการกระทำที่ล้ำเส้นจากการประณามความรุนแรง

แม้ว่าเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นภายในร.พ.พระมงกุฎฯ จะเกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบ 3 ปีเหตุการณ์รัฐประหาร

แต่เจ้าหน้าที่รัฐและคสช.ยังไม่ได้สรุปผลในเบื้องต้นว่ามีความเชื่อมโยงเช่นนั้น เพียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอความร่วมมือจากทุกคนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพิรุธรีบแจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบทันทีเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังเหตุ

การพูดลอยๆ ว่าคนทำน่าจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหรือคสช. ก่อนจะทราบข้อมูลที่แน่ชัดนั้น ทำให้เกิดการกล่าวโทษจนคนในสังคมหวาดระแวงกันและอาจถึงขั้นเกลียดชังกัน

ถ้าผู้ก่อการตั้งเป้าหมายให้เกิดสภาพการณ์นี้ เสริมด้วยการพูดจาเร่งความ ขัดแย้งของผู้ไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็มีแต่จะทำให้การวางระเบิดเช่นนี้บรรลุเป้าหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน