ตรวจสอบไอโอ
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ตรวจสอบไอโอ – ปฏิบัติการด้านข่าวสาร หรือ Information Operation (IO) เรื่องที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเปิดประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องน่าตกตะลึงสำหรับแวดวงการเมืองและคนในสังคม
แม้จะเป็นเรื่องที่คนทั่วไปโดยเฉพาะผู้นิยมใช้โซเชี่ยลมีเดียพูดถึงอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ระบุถึงหน่วยงานสั่งการ การใช้บุคลากรรัฐ และเงินสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ
แม้รัฐบาลชี้แจงว่าไม่มีนโยบายใช้ไอโอดังกล่าวเพื่อคุกคามประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และผู้นำระดับสูงกองทัพระบุว่าไม่มีหน่วยอวตาร แต่การปฏิเสธเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอสำหรับประชาชน
สิ่งต้องอธิบายให้ชัดเจนคือ มีคนของรัฐบาล มีข้าราชการ นำทรัพยากรและงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนไปใช้ในทางมิชอบหรือไม่
ทางมิชอบดังกล่าว หมายถึงการปฏิบัติตนไม่เป็นกลางทางการเมือง ก่อให้เกิดการแบ่งแยกประชาชนเป็นฝักฝ่าย
ทำให้กลุ่มประชาชนคับข้องใจ อึดอัดใจ และเคลือบแคลงใจในการบริหารงานของรัฐ ว่าเลือกปฏิบัติ เปิดช่องให้เกิดการคุกคาม หยามเหยียด ทั้งต่อกลุ่มคนหรือปัจเจกชน
ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการใช้เจ้าหน้าที่รัฐกระทำการดังกล่าวหรือไม่ และถ้ามีจะมีบทลงโทษหรือจัดการอย่างไร
ไม่ใช่โต้เถียง หรือบิดประเด็นว่า กลุ่มพรรคการเมืองอื่นใช้วิธีการนี้เช่นกัน
การต่อสู้ทางข้อมูลในโลกการสื่อสาร เป็นสถานการณ์ที่คาดหมายได้ ตรวจสอบได้ และโต้แย้งได้
ดังนั้น เมื่อมีข่าวปลอมเผยแพร่เกิดขึ้น สังคมร่วมกันตรวจสอบ-จับผิด หน่วยงานของรัฐควร ทำหน้าที่เป็นที่พึ่งในการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อสกัดกั้นและให้ข้อเท็จจริง แต่ต้องไม่ตั้งตนเป็นฝ่ายควบคุมการไหลเวียนของข่าวสารข้อมูลเสียเอง
ขณะเดียวกันต้องไม่ตั้งตนเป็นคู่กรณีกับกลุ่มประชาชน นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน หรือพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเปิดปฏิบัติการไอโอเสียเอง
ถ้าข้อกล่าวหาเรื่องไอโอมีมูลจริง หน่วยงานรัฐหรือกองทัพต้องยุติปฏิบัติการนี้ทันที และลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบ
เพราะไอโอและโฆษณาชวนเชื่อเป็นวิธีการที่ประทุษร้ายประชาชน