คอลัมน์ รายงานพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เชิญชวนประชาชนตอบคำถาม 4 ข้อไปยังศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด เพื่อนำมาพิจารณาแนวทางการทำงานต่อไป ได้แก่
1.ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ 2.หากไม่ได้จะทำอย่างไร 3.การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปนั้น ถูกต้องหรือไม่ 4.ท่านคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร
มีความเห็นจากหลายฝ่าย ดังนี้
สุขุม นวลสกุล
อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง
เบื้องหลัง 4 คำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายกฯอาจมีความ เป็นห่วงเช่นนั้นจริงๆ ก็ได้ แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นว่า สังคมตีความว่า คำถามเหล่านี้ รัฐบาลต้องการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก มุมมองของนายกฯแบบนี้ คือมุมมองด้านเดียว ที่มองมาจากการที่ไปยึดอำนาจเขามา
คำถามแรก เรื่องธรรมาภิบาล จะเห็นได้ว่า เป็นเรื่อง เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ความสำคัญกำหนดบังคับไว้อย่างแน่นหนา หากรัฐบาล ไม่ทำตามจะต้องเจอกับกระบวนการถอดถอนที่วางกลไกไว้
คำถามที่สอง ถามต่อจากคำถามแรกหากเจอฝ่ายบริหาร ที่กระทำขัดต่อหลักธรรมาภิบาลจะทำอย่างไร ก็ต้องถามกลับไปว่า แล้วนายกฯไม่เชื่อกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่วางไว้หรือ ขนาดฝ่ายนิติบัญญัติจะออกกฎหมายแต่ละครั้ง ก็กำหนดให้รับฟังความเห็นจากประชาชนก่อน หากได้รัฐบาลที่ไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล ก็เพียงแค่ทำตามรัฐธรรมนูญ
คำถามที่สาม แน่นอนว่า พรรค การเมืองจะหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งถัดไป ในลักษณะรื้อถอนแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิรูป ที่พวกท่านร่างกันมาโดยคนกลุ่มเดียวอย่างแน่นอน
หากท่านอยากปกป้องรักษาไว้ ก็ต้องหาพวกมารณรงค์ ให้ประชาชนเลือกพวกท่านกลับมาทำหน้าที่ป้องกันและเดินตาม แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นคือ หากมีคนสนับสนุนเพียงแค่หยิบมือเดียวจะ ทำอย่างไร
คงไม่มีพรรคการเมืองไหน จะเดินตามยุทธศาสตร์ที่พวกท่านไม่กี่คนวางไว้หรอก มิเช่นนั้นเขาจะมาตั้งพรรคการเมืองทำไม หากนำเสนอนโยบายไม่ได้
คำถามสุดท้าย หากได้นักการเมืองมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอีก จะทำอย่างไร ก็ให้ทำตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่วางไว้ ที่เรียกกันว่าฉบับปราบโกง คอยจัดการ ถ้านักการเมืองโกงกันมาก ก็ถอดถอนกันให้สนั่นเมือง ขอเพียงอย่าใช้วิธีเก่าๆ ยึดอำนาจแล้วฉีกรัฐธรรมนูญก็พอ
คำถามล่าสุด ถ้าไม่มีประยุทธ์แล้วประชาชนมีปัญหาจะเรียก หาใคร ก็ต้องบอกว่า จะให้บ้านเมืองไปฝากความหวังกับคน คนเดียวได้อย่างไร หากบาดเจ็บ ล้มป่วย ตาย บ้านเมืองก็ไม่ต้องเดินหน้าต่อไปกันเลยหรือไม่
สุดท้ายสิ่งที่พวกท่านต้องห้ามลืม โดยเฉพาะฝ่ายอนุรักษ์นิยมคือ สำนวนที่ว่า ?อยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี?
สดศรี สัตยธรรม
อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
คำถามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถามประชาชน สะท้อนว่าเป็นธรรมดาที่เมื่อตัวเองได้เป็นรัฐบาล จะบอกว่าสามารถบริหารประเทศด้วยดีมาตลอด
ปัญหาคือการตั้งคำถามแบบนี้สะท้อนแนวคิดว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำให้เกิดปัญหาแบบที่ตั้งคำถามไว้ การทำงานของรัฐบาลพลเรือนจะทำได้ยาก เพราะจะถูกควบคุมโดย ส.ว.และศาล
หากพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นผู้นำรัฐบาล อีกครั้ง ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ารัฐบาลที่ไม่ได้มาจากทหารอาจเกิดปัญหาได้ เพราะส.ว.ชุดหน้าจะมาจากการแต่งตั้งโดยคสช. ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีฐานเสียงโดยส.ว. การทำหน้าที่บริหารประเทศคงไม่มีปัญหา
เชื่อว่าคำถามที่ตั้งขึ้น นายกฯคง ให้ประชาชนคิดให้ดีว่าหากมีการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองจะไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ เป็นการชี้ให้เห็นว่าทหารเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม การที่นายกฯ ออกมาตั้งคำถามกับประชาชน คงไม่ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าอาจจะเห็นพรรคการเมืองของทหาร คำถามที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนการสนับสนุนทหารนั่นเอง
และชี้ให้เห็นว่าหากรัฐบาลหน้ามาจากพลเรือนปัญหาจะวนเวียนกลับมา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการชี้นำว่าทหารดีกว่า
ถ้าเลือกตั้งแล้วเป็นนายกฯที่มาจากทหาร จะไม่มีม็อบ ไม่มีปัญหาใดๆ คงชี้ให้เห็นว่าควรใช้บริการทหารดีที่สุด เพราะจากผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ เปอร์เซ็นต์ความนิยมทหารยังปรากฏสูงอยู่แม้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี อีกทั้งทหารบอกอยู่ตลอดว่าดูแลประชาชนได้ต่อไป
ส่วนจะกระทบกับการสร้างความปรองดองหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่กระทบ และไม่ เกี่ยวกัน เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นท่าทีว่า ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ยังมีการพูดถึงม็อบเสื้อแดงที่อยู่ต่างประเทศ ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ใดๆ ยังมีการกล่าวหากันไปมา หากยังเป็นแบบนี้ความปรองดองไม่มีทางเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าจากคำถามของ นายกฯ 4 ข้อ รัฐบาล คสช.ควรเป็นฝ่ายตอบประชาชนมากกว่า และเป็นคำถามที่ควร ต้องถามตัวเอง
ทุกคำถามท่านเองที่ควรต้องรู้คำตอบได้ดีและมากกว่าคนอื่น
อังคณา นีละไพจิตร
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
ที่จริงเราเดินทางมาถึง สิ่งที่มีรัฐธรรมนูญแล้ว และกำลังมีพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และนายกฯรับปากมาตลอดว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า มาถึงจุดนี้ถ้าจะเลื่อนเลือกตั้ง จะเลื่อนเพราะสาเหตุอะไร
และที่ถามว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครบอกได้ การเลือกตั้งต้องเป็นไปตามประชาธิปไตย เมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วก็สมควรมี การเลือกตั้งโดยเร็ว ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณเลือกคนดีเข้ามา และพรรคการเมืองต่างๆ ต้องพิจารณาคนลงสมัครด้วย เอาคนที่มีคุณสมบัติทำงานเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนการตั้งคำถามดังกล่าว เห็นว่านายกฯมีสิทธิจะถาม ประชาชนก็มีสิทธิที่จะยืนยันเรื่องการเลือกตั้ง ถ้านายกฯหรือเจ้าหน้าที่คสช.ต้องการเล่นการเมืองก็สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งตามระบบได้ โดยตั้งพรรคการเมืองก็ได้ เพราะสุดท้ายแล้วอยู่ที่ประชาชนจะเลือกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่านายกฯตั้งคำถามเพื่อที่จะสืบทอดอำนาจ เพราะที่ผ่านมานายกฯพูดมาตลอดว่าจะเลือกตั้งปี 2561 ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ จะเลื่อนเลือกตั้งออกไป ถ้าจะบอกว่าบ้านเมืองยัง ไม่สงบ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลก็สามารถใช้อำนาจควบคุมได้อยู่แล้ว การเลือกตั้งก็ดำเนินไป
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นระเบิดหรืออะไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าที่ผ่านมา 3 ปี การแก้ปัญหาความขัดแย้งยังไม่จริงจัง ปรองดองก็ไม่มีทีว่าจะเกิดขึ้นได้ ปฏิรูปตำรวจ ที่ว่าสำคัญ มองดูแล้วไม่ น่าจะง่าย ก็ควรให้พรรค การเมืองเสนอนโยบายเข้า มาว่าจะทำอะไรบ้าง ดังนั้นคืนอำนาจให้ประชาชนน่าจะเหมาะสมที่สุด
ฉะนั้น เห็นว่าคำถาม เหล่านี้รัฐบาลควรจะตอบว่าที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง ทำได้และไม่ได้เพราะอะไร นายกฯควรชี้แจงกับประชาชนมากกว่า
การที่บอกว่าถ้าเลือกตั้งไปแล้วได้พรรค การเมืองไม่ดีจะทำอย่างไร รัฐบาลนี้จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้คนดี แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าเมื่อไร จึงควรให้ประชาชนเลือกจะดีกว่า
ทั้ง 4 คำถามทำให้เกิดความไม่มั่นใจมากว่าแล้วจะอย่างไรต่อ เพราะคิดว่าปีหน้าเราจะเดินไปสู่ การเลือกตั้ง มีรัฐบาลต่อไป ประชาชนจะตรวจสอบรัฐบาลได้ เจอคำถามอย่างนี้ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งรู้สึกไม่มั่นใจ หรือรัฐบาลจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
สิ่งที่อยากถามรัฐบาลและคสช.คือจะอยู่ไปทำไมยาวๆ ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง ก็เตรียมเลือกตั้งแล้ว เพราะใกล้หมดวาระ ไม่อย่างนั้นก็เหมือนสมัยก่อนปฏิวัติ อยู่ไปเป็น 10 ปีจนทำให้ประชาชนออกมาเรียกร้อง
รัฐบาลจึงควรทำไปตามโรดแม็ปดีที่สุด จะเป็นความสง่างามของรัฐบาลที่ได้รับปากไว้
อดิศร เนาวนนท์
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
การที่ พล.อ. ประยุทธ์ ตั้ง 4 คำถามออกมาเพื่อให้ประชาชนตอบนั้น ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจถามเพื่อหวังป้องปรามกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว แสดงพลังทางการเมืองในช่วงนี้ โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่งล่าสุดเกิดขึ้น ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงคาดการณ์ว่าเหตุดังกล่าวเกิด จากฝ่ายการเมือง จึงตั้งคำถามออกมาในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตาม รู้สึกแปลกใจที่พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณโดยให้ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยเป็น ผู้ดำเนินการ ไปรับฟังและรวบรวมคำตอบจากประชาชน มองว่าคงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะคำตอบที่ได้นั้น เชื่อว่าทุกฝ่ายสามารถคาดเดาได้อยู่แล้วว่าจะออกมาในรูปแบบใด
ยิ่งคำถามเป็นคำถามชี้นำ ย่อมต้องได้คำตอบที่ถูกใจ พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว
มองว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเลื่อน การเลือกตั้งออกไป โดยพล.อ.ประยุทธ์สามารถอยู่เพื่อสืบทอดอำนาจต่อได้ผ่านรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกที่กำลังพิจารณากันอยู่
ต้องไม่ลืมว่าท่านเป็นคนสร้างกติกา ดูได้จากการกำหนดให้ ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง 250 คน แต่ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์อยู่นานจะต้านกระแสของคนในประเทศและของโลกไม่ไหว
ถามว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อแล้วสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนได้หรือ คำตอบก็เห็นๆ กันอยู่แล้ว
และหากไม่มีการเลือกตั้งตามโรดแม็ป เชื่อว่าจะเป็น การสร้างแรงกดดัน และกระแสจะตีกลับมาที่ตัว พล.อ. ประยุทธ์เอง
ส่วนที่มีวิจารณ์ว่าการตั้งคำถามนี้จะกระทบการสร้าง ความปรองดองหรือไม่นั้น มองว่าไม่กระทบหรือทำให้การปรองดองสะดุดอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ผู้เกี่ยวข้องทำเรื่องนี้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น
ไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐบาลที่มา จากการรัฐประหารยึดอำนาจ มองว่าไม่มีรัฐบาลไหนที่มี ธรรมาภิบาล 100% แต่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ผิดตรง ที่ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ขาดซึ่งธรรมาภิบาล ตรวจสอบก็ไม่ได้ ดังนั้นเรื่องความโปร่งใสก็ไม่ต้องไป พูดถึง
ความคุ้มค่าของรัฐบาลดูได้จากความอยู่ดีกินดีของประชาชน เชื่อว่าทุกคนคงมีคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร
ดังนั้น ขอฝากให้พล.อ.ประยุทธ์ทำตามโรดแม็ปที่ประกาศไว้ เชื่อว่าจะเป็นคุณูปการกับทุกฝ่าย
ตอนที่ท่านเข้ามามีความดีตรงที่ได้เข้ามาระงับยับยั้ง ไม่ให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อกัน แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องถอย
