ศัตรูที่มองไม่เห็น

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ศัตรูที่มองไม่เห็น – ขณะนี้มีผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างน้อย 2 ประเทศ คือสหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส เอ่ยว่าประเทศตนเองกำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเผชิญกับศัตรูที่มองไม่เห็น

เนื่องจากลักษณะของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นชนิดที่ยากแก่การควบคุม จึงทำให้โรคโควิด-19 ระบาดอย่างรวดเร็ว

มาตรการที่หลายๆ ประเทศใช้อยู่ตอนนี้คือปิดเมือง คุมชายแดน ไปจนถึงปิดประเทศ

พร้อมกันนี้ยังประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่สั่นสะเทือนระดับสงครามโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สาหัสก่อนภาคอื่นๆ และยังประเมินไม่ได้ว่าจะฟื้นตัวได้เมื่อใด

เพราะหากนานาประเทศในโลกไม่อาจสยบศัตรูที่มองไม่เห็นได้พร้อมๆ กัน ความเสี่ยงที่สงครามนี้จะยืดเยื้อจะมีอยู่มาก

สําหรับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพิ่งประเมินผลกระทบรอบใหม่จากโควิด-19 ระบาดทั่วโลก ทำให้นานาประเทศปิดเมือง หรือปิดประเทศ

แน่นอนว่าสถานการณ์นี้จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงถึงร้อยละ 30-40 จากปีก่อนหน้า หรือจาก 39.8 ล้านคน เหลือร้อยละ 24-28 ล้านคน เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวไทยที่จะลดลงราวร้อยละ 20-25

เมื่อประเมินรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2563 คาดว่าจะลดลงประมาณ 750,000-990,000 ล้านบาท หรือรายได้รวมจะเหลือราว 2-2.2 ล้านล้านบาทจากปีก่อนมีรายได้ 3.01 ล้านล้านบาท

ความสูญเสียนี้ประเมินตามสมมติฐานที่มีการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2563

สิ่งที่น่าวิตกพร้อมกันนี้คือผู้ประกอบการ ท่องเที่ยวอาจปิดตัวอย่างน้อย 5,000-10,000 รายจากปัจจุบันมีจำนวน 50,000 ราย

จากเดิมที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีการจ้างงานจำนวน 4 ล้านตำแหน่ง จะต้องเลิกจ้างลงถึงร้อยละ 25-30 หรือคิดเป็น 1-1.2 ล้านตำแหน่ง และมีผู้ที่ถูกลดรายได้ ลดเงินเดือน พักงาน ลางานโดยไม่รับเงินเดือนประมาณ 3 ล้านตำแหน่ง

จำนวนคนที่มากมายมหาศาลนี้จะกระทบไป ยังสมาชิกในครอบครัวของแต่ละคน และชุมชนของแต่ละแห่งที่มีธุรกิจรายย่อยที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก

สิ่งที่จะยากต่อจากศัตรูที่มองไม่เห็น คือความลำบากของประชาชนที่รัฐบาลต้องมองให้เห็น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน