FootNote:กรณี เรือยกพลขึ้นบก เรือดำน้ำ มีแต่ ‘ผลเสีย’ ไม่มี ‘ผลได้’ เลย
ไม่ว่าจะพิจารณาจากมุมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะพิจารณาจากมุมการเมือง การบรรจุกรณีเรือยกพลขึ้นบกเข้าสู่วาระการประชุมเป็นการอันไม่เหมาะสม เป็นการไม่สมควร
ไม่สมควรเพราะรู้อยู่แล้วว่าประเทศกำลังประสบภาวะร้ายแรงอะไร
มีความจำเป็นเฉพาะหน้าในการใช้เงินอย่างไร
ยิ่งกว่านั้น สถานการณ์เฉพาะหน้าของกระทรวงกลาโหมก็เป็นสถานการณ์ ซึ่งไม่เป็นผลดีเท่าใดในเรื่องของภาพลักษณ์และกระบวนการใช้เงิน
ในเมื่อมีเสียงเรียกร้องให้โอนงบประมาณการซื้อเรือดำน้ำไป เป็นงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
พลันที่ปรากฏโครงการซื้อเรือ กระแสคัดค้านก็กระหึ่ม
ที่น่าตกใจมากยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การบรรจุการซื้อเรือยกพลขึ้นบกเกิดขึ้นในความเรียกร้องต้องการให้โยกโอนงบประมาณบางส่วนในกระทรวงกลาโหมออกไปเป็นงบสู้กับศึกไวรัส โควิด
รัฐบาลยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะโยกโอนงบประมาณกระทรวงอื่นจะไม่แตะของกระทรวงกลาโหม
จากนั้นก็มีการบรรจุกรณี”เรือยกพลขึ้นบก”เข้าสู่วาระ
อย่าได้แปลกใจหากจะปรากฏเอกสารหลักฐานอันเป็นวาระ การพิจารณาของครม.เผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางทั้งสื่อเก่าและสื่อใหม่
กลายเป็นกระแสคัดค้าน ต่อต้าน อย่างรุนแรงในสังคม
กลายเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ไม่ดีทั้งต่อกระทรวงกลาโหมและต่อรัฐบาล
กลายเป็นความละเอียดอ่อนยิ่งในทางการเมือง
ความละเอียดอ่อนอยู่ตรงที่ภาพจำของรัฐบาลดำรงอยู่อย่างไร ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ก็ยังเป็นรัฐบาลเดิมไม่แปรเปลี่ยน
นั่นก็คือ รัฐบาลอันมีพื้นฐานแห่งอำนาจมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
นั่นก็คือ เป็นรัฐบาล”ทหาร” เป็นรัฐบาล”สืบทอดอำนาจ”
และการยืนยันในเรื่องงบประมาณทหารแทนที่จะเป็นงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนยิ่งเด่นชัด
เด่นชัดว่ารัฐบาลมองปัญหาของประชาชนอย่างไร