บทบรรณาธิการ
การนำเสนอบทเรียนทางวิชาการในการศึกษาวิกฤตความรุนแรงทางการเมืองวาระรำลึก 40 ปี 6 ตุลา ก็คือต้องเอาทหารออกจากการเมือง เพื่อให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยไทย
เงื่อนไขนี้อาจทำให้คนส่วนหนึ่งไม่พอใจ เพราะหลายเหตุการณ์ที่ประเทศเกิดปัญหานั้น การแทรกแซงมักมาด้วยคำกล่าวอ้างถึงความหวังดี
แม้ความหวังดีลักษณะนี้แสดงผลลัพธ์มาเสมอว่าเป็นอุปสรรคสำหรับการพัฒนา เหมือนกับการกินยาผิด
นอกจากไม่รักษาโรคเดิมแล้วยังมีโรคใหม่แทรกซ้อนเข้ามาอีก
ผลลัพธ์ต่างๆ นี้ไม่เพียงเกิดกับประเทศไทย หากเกิดกับทุกประเทศที่ใช้ยาผิด
สิ่งสำคัญอีกประการสำหรับการพัฒนาประชาธิปไตยคือความอดทน เนื่องจากประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งสำเร็จรูปหรือสมบูรณ์แบบ ต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาไปสู่ความมีวุฒิภาวะ
ทั้งต้องมีความอดทนอดกลั้นช่วยรั้งสติไม่ให้ใช้ความรุนแรงเพื่อเอาชนะ
ตัวอย่างในต่างประเทศคือกระแสแห่งการปฏิวัติในโลกอาหรับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงวันนี้พบว่าไม่ใช่ทุกประเทศที่รอดไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้
บางประเทศหวนกลับไปสู่การดึงทหารเข้าสู่การเมือง และบางประเทศล่มสลายด้วยสงครามกลางเมือง เนื่องจากขาดความอดทน
นอกจากคุยกันเองไม่ได้แล้วยังเปิดทางให้เกิดการแทรกแซงจากอำนาจภายนอก
สําหรับไทยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบความอดทน ระหว่างเฝ้ารอร่างกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับที่กำหนดให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำภายใน 8 เดือนหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้
ในขณะที่โรดแม็ปของรัฐบาลอาจสำคัญในด้านปฏิรูปสำหรับคนส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกับการกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศ
แต่คนอีกส่วนอาจเห็นว่าการฟื้นคืนอำนาจ 3 ฝ่าย นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการอยู่ภายใต้บริบทของการตรวจสอบถ่วงดุลกันนั้นสำคัญกว่า
เพราะเมื่ออำนาจทั้งสามฝ่ายถ่วงดุลกันได้แล้ว ยุทธศาสตร์หรือแผนการปฏิรูปต่างๆ จะตามมาอย่างเป็นระบบ
พร้อมกับการตรวจสอบกันเพื่อแก้ปัญหาการทุจริตโดยมีกลไกที่ชัดเจน มีวิธีการตรวจสอบที่ได้มาตรฐาน ไม่ต้องครหากันว่าฉันไม่ดี เธอก็ไม่ดี