FootNote:ภาพลักษณ์ผลงานประชาธิปัตย์ กับรัฐบาลประยุทธ์พลังประชารัฐ
กรณีของ CPTPP ก็เหมือนกับกรณี “สารพิษ” นั่นก็คือมิได้เป็นโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อเข้าสู่ระบบของครม.พรรคประชาธิปัตย์ก็จำเป็นต้องรับเผือกร้อนนี้
เพราะว่ากระทรวงในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพราะว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่ารองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลคือรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์
เผือกร้อนนี้จึงอยู่ในมือของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แทนที่จะเป็นของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แทนที่จะเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงแบกรับไป
ถามว่า CPTPP เป็นงานในความรับผิดชอบของใคร ตอบได้เลยว่าเป็นงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างแน่นอน แต่เป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลก่อน
เป็นรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
เป็นงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนก่อนที่อยู่ในความกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
แต่เมื่อมาถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่เดือน มิถุนายน 2562 งานนี้ก็ตกมาอยู่ในมือของรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ในความกำกับของรองนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์
นั่นแหละ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั่นแหละ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงรับไปเต็มๆ
กลายเป็นผลงานร้อนๆในมือของพรรคประชาธิปัตย์
ในฐานะที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ในฐานะที่ตัดสินใจขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมิถุนายน 2562
ด้านหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์ได้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับผิดชอบ
ขณะเดียวกัน ภายในความรับผิดชอบนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็จะต้องรับเอางานซึ่งเคยเป็นของคสช.เข้ามาอยู่ในมือไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
เป้าหมาย “ประชาธิปไตยสุจริต” ที่วาดหวังจึงต้องแปดเปื้อนเข้ากับ”ประชาธิปไตยทุจริต”อย่างชนิดไม่มีทางหลีกเลี่ยง
เป็นพรรคประชาธิปัตย์ยุค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์