คอลัมน์ บทบรรณาธิการ : เหตุใดไม่บอกชาวบ้าน
กรณีการรื้อถอนอาคารไม้เก่าแก่ภายในสวนรุกขชาติ ชุมชนเชตวัน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ อายุราว 120-130 ปี ปรากฏภาพซากอาคารกองระเนระนาดในสภาพไม่เหลือเค้าเดิม เป็นข่าวกระทบจิตใจคนท้องถิ่นและประชาชนทั่วไปไม่น้อย
โดยเฉพาะเมื่อบริษัทรับเหมาเข้ามาดำเนินการรื้อถอนโดยไม่มีการทำประชาคม หรือสอบถามความคิดเห็นของคนเมืองแพร่ ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น
แม้รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ข้อมูลจากหน่วยราชการ ว่าสาเหตุที่ต้องรื้อไม้ลงมาเพราะฐานรากคอนกรีตของอาคารเสื่อมสภาพ จึงต้องรื้อไม้ทั้งหลังลงก่อนเพื่อทำฐานรากใหม่ ก่อนประกอบตัวอาคารใหม่ โดยการซ่อม ครั้งนี้เป็นการซ่อมอาคารไม้ทั้งหลัง ไม้ทุกแผ่นที่รื้อออกมาไม่ได้หายไปไหน
แต่รายละเอียดทั้งหมดทั้งมวลนี้ เหตุใดชาวบ้านในชุมชนจึงไม่รู้เรื่องก่อน
จากข้อมูลของภาคีเครือข่ายรักษ์เมืองเก่า อาคารไม้ดังกล่าวเคยเป็นของบริษัทบอมเบย์เบอร์มา เทรดดิ้ง จำกัด ใช้เป็นสำนักงานในการประกอบธุรกิจไม้ในเมืองไทย และป่าสักอันสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
จึงถือเป็นหลักฐานหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชุมชน ว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้เคยมีบริษัทต่างชาติ เข้ามาทำไม้ จนกระทั่งสัมปทานไม้หมดลง
เมื่อชาวบ้านเห็นคุณค่าของอาคารดังกล่าว หน่วยราชการก็ควรให้ความสำคัญตั้งแต่การให้ข้อมูลชี้แจงว่าจะทำอะไร เมื่อใด ใช้งบประมาณเท่าใด
ไม่ควรให้ประชาชนมารู้เรื่องตอนที่อาคารกลายสภาพเป็นถูกทุบทำลาย
หลังจากกรณีดังกล่าวเป็นข่าวที่ทำให้ผู้คนรับทราบรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว กลุ่มประชาชน และภาคีเครือข่ายรักษ์เมืองเก่าตั้งข้อสังเกตต่อว่า โครงการที่ระบุว่าซ่อมแซมปรับปรุงที่จะใช้งบประมาณ 4.56 ล้านบาทจริงหรือไม่ เพียงพอหรือไม่
เนื่องจากยังไม่เห็นการออกแบบที่ชัดเจน หรือมีเอกสารประกอบในด้านสถาปนิกที่ถูกต้อง
สิ่งที่ประชาชนและชุมชนไม่เข้าใจและไม่วางใจอยู่แต่เดิม ไม่ใช่เพียงว่าช่างจะบูรณะหรือประกอบอาคารให้เหมือนเดิมอย่างไร
แต่เป็นคำถามคาใจว่า เหตุใดหน่วยราชการจึงตัดสินใจเองในสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้าน และจากนี้ไปจะปรับปรุงให้เข้าถึงชาวบ้านหรือยัง