เหลือเวลาอีก 7 วัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตัดสินคดีโครงการจำนำข้าว ซึ่งมีอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหา

ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง กกล.รส.ทั้ง 4 กองทัพภาค และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อประเมินสถานการณ์

เน้นย้ำให้หน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย ควบคู่กับการทำความเข้าใจกับประชาชน

โดยประเมินว่าจะมีผู้เดินทางมาให้กำลังใจประมาณ 1-2 พันคน

ในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือและอีสานนั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงให้จับตากลุ่มแกนนำในพื้นที่ ที่อาจจะเคลื่อนไหวชักชวนคนเดินทางไปให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี

โดยเชื่อว่าหากพื้นที่ใดยังมีท่อน้ำเลี้ยง ก็จะใช้รถตู้ และอีกช่องทางหนึ่งคือรถไฟฟรีที่จะเดินทางมาก่อนวันตัดสินอย่างน้อย 2-3 วัน

หน่วยงานด้านความมั่นคงอ้างว่าไม่ได้กังวลจำนวนคนที่จะมาให้กำลังใจว่ามากหรือน้อย แต่เป็นห่วงมือที่สามจะมาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ขณะเดียวกันก็ให้ส่งกำลังไปดูแลอารักขาบ้านพักของคณะตุลาการองค์คณะศาลฎีกาทั้ง 9 คน ทั้งก่อนที่จะมีคำตัดสินและหลังคำตัดสิน

การเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายใดๆ ย่อมเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่ต้องไม่มีปมแอบแฝง

ในอีกด้าน การที่ประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจใคร หรือชื่นชอบบุคคลใด ถือเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ถ้าหากเป็นไปโดยสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง และปราศจากอาวุธ

ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้ข้ออ้างป้องกันความวุ่นวาย เพื่อใช้ดำเนินการสกัดกั้นด้วยความไม่สุจริต ย่อมถือว่าละเมิดเสรีภาพของประชาชนด้วยเช่นกัน

การปฏิบัติอย่างสุดโต่ง เข้มงวด แข็งกร้าว รังแต่จะเป็นความตึงเครียด สร้างอึดอัด อัดอั้น สวนทางกับกระบวนการสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่

รัฐมีหน้าที่รักษาความสงบ แต่คำว่ามือที่สามซึ่งอาจจะก่อเหตุ ต้องไม่ใช่ชาวบ้าน ที่มีสิทธิเดินทางไปไหนมาไหนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน