เหตุปัจจัยอะไรทำให้ 17 กองร้อยจาก “บช.น.” เมื่อมาถึงมือของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล

จึงกลายเป็น 24 กองร้อย

นั่นก็คือ การปรับกำลังพลจาก 2,550 นาย มาเป็น 3,600 นาย

ตระเตรียมจากวันที่ 21-26 สิงหาคม

“ด้านการข่าวระบุว่า วันที่ 25 สิงหาคมจะมีมวลชนมาให้กำลังใจมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“จากการข่าวพบว่า ขยับกันทั้งประเทศ

“มีการระดมชักชวนกันมาจังหวัดละ 10-20 คนทั้งประเทศมีเพียง 10 จังหวัดเท่านั้นที่ไม่ระดมคนมา”

นั่นคือ เหตุผล

หากฟังจากบทสรุปด้านการข่าวของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ก็พอจะมอง “ภาพ”โดยรวมออก

10 จังหวัดนั้นด้านหลักน่าจะอยู่”ภาคใต้”

กระนั้น ที่เหลืออีก 60 กว่าจังหวัดหากเริ่มต้นจากจำนวน 10-20 คน ก็ไม่น่าจะอยู่ที่ 600-1,000 ยังเป็นจำนวนที่ไม่มากนักหากเทียบกับการตระเตรียมกำลัง “ตำรวจ”

ความน่าเป็นห่วงของ “ตำรวจ” จึงอยู่ที่ กทม.และพื้นที่ปริมณฑลมากกว่า

นั่นก็คือ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าปริมณฑลโดยรอบกทม.เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย

พื้นที่เหล่านี้ไม่น่าจะจำกัดเพียง 10-20 คน

จากนี้จึงเห็นได้ในความจำเป็นที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล จะต้องเพิ่มปริมาณ “กำลังพล”

จาก 17 เป็น 24 กองร้อย

และก็ไม่เพียงแต่จะเป็นกำลังพลจาก “นครบาล” หากแต่รวมถึงกองบัญชาการตำรวจภูธรโดยรอบ “นครบาล”อีกด้วย

กำลังพล 2,550 จึงทะยานไปสู่ 3,600 นาย

ทั้งนี้ ยังมิได้นับเอากำลังพล “นอกเครื่องแบบ” ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าทหาร หรือแม้กระทั่งฝ่ายปกครองและในส่วนอันเป็นพลเรือน ล้วนต้องระแวดระวังอยู่แล้ว

นี่มิใช่”กระต่ายตื่นตูม” หากเป็น”ความรอบคอบ”

เป็นความรอบระดับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน