ทั้งๆที่เคยผ่านสถานการณ์และผลสะเทือนจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ในกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว

แต่”บทสรุป”ก็ยังเป็นไป”เหมือนเดิม”

ไม่ว่าจะมาจากนักวิเคราะห์อันเป็น “นักวิชาการ” ไม่ว่าจะมาจากนักวิเคราะห์อันเป็น “สื่อ”

ต่อกรณีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 กันยายน

หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็มองว่าพรรคไทยรักไทยหมดอนาคตอย่างแน่นอน

ถึงกับเรียกว่าเป็นยุค”โพสต์ ทักษิณ”

เมื่อมาถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มองว่าพรรคเพื่อไทยหมดอนาคตอย่างแน่นอน

และเรียกกันว่าเป็นยุค”โพสต์ ยิ่งลักษณ์”

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เมื่อมาถึงการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2550 ชัยชนะก็มิใช่ของพรรคประชาธิปัตย์

หากแต่เป็น “พรรคพลังประชาชน”

และเมื่อมีการบดขยี้ซ้ำโดยการยุบพรรคพลังประชาชน และดำเนินการสลายการชุมนุมไม่ว่าเมื่อเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

แต่พอถึงการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ชัยชนะ

ทั้งๆที่เป็นรัฐบาลและแนบแน่นอยู่กับ”กองทัพ”

ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคพลังประชาชน ล้วนเป็น “อวตาร”ของพรรคไทยรักไทย

ที่ว่าหมดอนาคต ก็เด่นชัดว่า”อนาคต”ยังสุกใส

เหมือนกับเนื้อแท้ของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ผูกติดอยู่กับคนในตระกูล”ชินวัตร”

อาจเป็นเช่นนั้น

แต่คำถามก็คือ ทั้งๆที่ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่อยู่ในประเทศ และคนในตระกูล”ชินวัตร”ก็ถูก “รุกไล่”ทั้งในทางการเมืองและในทางเศรษฐกิจ

เหตุใดพรรคพลังประชาชนยังชนะเลือกตั้งในปี 2550 และพรรคเพื่อไทยยังชนะเลือกตั้งในปี 2554

แสดงว่าต้องมีมากกว่า นายทักษิณ ชินวัตร

นี่คือ”โจทย์”ทางการเมืองที่ถูก”มองข้าม”นับ 10 ปีมาแล้วโดยมิได้มีการ “สรุป”อย่างจริงจัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน