วันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันครบ 1 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสู่สวรรคาลัย

เป็นวันที่พสกนิกรต่างโศกาดูร ร่ำไห้ทั้งแผ่นดินด้วยความอาลัยรัก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อชาวไทยอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองสิริราชสมบัติ

การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบรมชนกนาถ

ขณะที่พสกนิกรชาวไทย ก็พร้อมใจกันทำบุญตักบาตร อุทิศถวายเป็น พระราชกุศลโดยถ้วนหน้าพร้อมกัน ทั้งประเทศ

หลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร เมื่อวันที่ 20-21 มกราคม 2560 แล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สำนักพระราชวัง เปิดให้พสกนิกรได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ เบื้องหน้าพระบรมโกศ อย่างใกล้ชิด

เมื่อทรงทราบว่ายังมีอีกจำนวนมาก มีความปรารถนาจะเข้าถวายสักการะ แต่เนื่องจากกำหนด วันต้องสิ้นสุด เพราะต้องเตรียมการพระราชพิธี ต่อไป ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ขยายเวลาให้ตามสมควร

ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 337 วัน จึงปรากฏว่ามีพสกนิกรจำนวนทั้งสิ้น 12,739,531 คน เข้าถวายสักการะ และถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลถึง 889,545,100.01 บาท

ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

อีก 12 วันนับจากนี้ จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ หมายกำหนดการเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมจนถึงวันที่ 29 ตุลาคม นับเป็นโอกาสอันสมควรยิ่งที่ชาวไทยที่เป็นข้ารองพระบาทจักได้รวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว

ด้วยการน้อมนำเอาพระราชปณิธานมาสานต่อ ยึดพระราชจริยวัตรมาเป็นแบบอย่าง รวมถึงพระบรมราโชวาทที่พระราชทานไว้ในโอกาสต่างๆ มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อความวัฒนาผาสุกของแต่ละคนและประเทศชาติ

การกระทำดังที่กล่าวมานี้ จึงนับว่าเป็นการแสดงความกตัญญุตาและแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างถูกต้องที่สุด

เพื่อส่งพระองค์สู่ฟ้าเสวยสวรรค์อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน