บทบรรณาธิการ

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศช่วงนี้มาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง มีการระบายน้ำจากเขื่อนทำให้หลายจังหวัดในภาคกลางเกิดอุทกภัย ล่าสุดในกทม. เกิดท่วมขังอย่างน่าตกใจ

กรณีนี้แม้เป็นภัยธรรมชาติที่คาดการณ์ได้ แต่การบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยที่ทันท่วงทียังคงสำคัญและเป็นหน้าที่ของรัฐในการตรวจสอบการทำงานและการประสานงานระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัด หน่วยทหาร และองค์กรปกครองท้องถิ่น

เพราะความเดือดร้อนของประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นแสดงให้เห็นในทุกช่วงฤดูมรสุม

ตัวอย่างภัยจากพายุฝนและน้ำท่วมที่เกิดในทำเนียบรัฐบาล สะท้อนว่าการจัดการรับมือนั้นอาจเผชิญปัญหาอุปสรรคมากมาย

กรณีตึกสันติไมตรี สถานที่สำคัญภายในทำเนียบที่ใช้ต้อนรับแขกทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นสถานที่จัดการประชุมสำคัญๆ นั้น

แม้มีแผนการซ่อมแซมและมีงบประมาณอยู่แล้ว แต่ต้องรอขั้นตอนของการแข่งขันประมูลใน 16 บริษัท

ระหว่างการรอ เกิดน้ำรั่วจากบนเพดานในช่วงฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วมขังบริเวณโถงกลาง และห้องประชุมหลังในของตึกสันติไมตรี อีกทั้งยังมีกระแสไฟฟ้ารั่วที่ยังดีว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

แม้ว่าสุดท้ายแล้วการแก้ไขปัญหาในสถานที่สำคัญของประเทศอาจทำได้รวด เร็วและลุล่วง แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยในวิธีการจัดการกับสถานที่อื่นๆ หรือพื้นที่อื่นๆ

ปัญหาการจัดการน้ำขณะนี้ไม่ใช่คิดแต่การเปรียบเทียบกับเหตุอุทกภัยร้ายแรงเมื่อปี 2554 เพราะความร้ายแรงและจำนวนพายุนั้นไม่เหมือนเดิม

แต่สิ่งที่น่าพิจารณาอยู่ที่วิธีการจัดการรับมือสถานการณ์ ไม่ว่าช่วงเฉพาะหน้าหรือผล กระทบหลังจากนั้น

ช่วงเวลาในปี 2554 ข้อเสียคือเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จึงไม่สามารถบริหารจัดการได้ทันการณ์ แต่จุดดีคือการมีผู้แทนของประชาชนที่คอยช่วยเหลือและแจ้งความเดือดร้อนต่อรัฐบาลได้โดยตรง อีกทั้งมีกำลังจากกองทัพเข้าช่วยในการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์

เมื่อมีตัวอย่างแล้วจึงควรจะจัดการให้ดีกว่าเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน