คำถาม 6 ข้อล่าสุดอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนกับจะดำเนินไปในแบบ ลับ ลวง พราง
แต่หากฟังจากหลายๆฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็น นายถาวร เสนเนียม ล้วนอ่านออก แทงทะลุ
ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน
นั่นก็คือ คสช.ต้องการอยู่ในอำนาจต่อไป โดยที่นายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดิมนั่นเอง
คำถาม 6 ข้อจึงดำเนินไปเหมือนกับคำถาม 4 ข้อก่อนหน้านี้ นั่นก็คือเป็นการโยนหินถามทาง
ลับ ลวง พราง แต่ก็เปิดล่อนจ้อน
ถามว่าทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หัวขบวนคสช.ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตเรื่อง “สืบทอดอำนาจ”
ก็ไม่เคยยอมรับตรงๆ หากดำเนินไปในแบบบ่ายๆเบี่ยงๆ เลี่ยงบาลี หรืออย่างชัดที่สุดก็คือ
ขึ้นอยู่กับ “สถานการณ์”
แต่พลันที่ 6 คำถามตามมาในลักษณะเสริมกับ 4 คำถามก็กลายเป็น 10 คำถามอันแบะแบออกมา
แบออกมาว่าน่าจะมี “พรรคการเมือง” ใน “ดวงใจ”
แบออกมาว่ากระบวนการอย่างที่เรียกว่า “ปฏิรูป” นั่นแหละคือแกนหลักในการหาเสียงสร้างคะแนนนิยม
เป็น “พรรคคสช.” มิใช่พรรคอื่นใดทั้งสิ้น
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาแสดงเจตจำนงของตนผ่าน 6 คำถามสะท้อนความมั่นใจ
1 มั่นใจในผลงานและความสำเร็จ
1 มั่นใจว่าคะแนนนิยมของคสช.และโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหนือกว่าทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทย
เมื่อเสริมกับ “รัฐธรรมนูญ” เมื่อเสริมกับ “กฎหมายลูก”
ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยจะมาเทียบเคียงได้
ความมั่นใจนั่นแหละทำให้ “เปิดหน้า” ออกมา “ชก”