รายละเอียดอันเกี่ยวกับ “ข้อเสนอ” ในการปรับครม.ระหว่าง 2 รัฐ มนตรีคนสำคัญน่าศึกษาอย่างเป็นพิเศษ

1 ข้อเสนอให้ปรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออก

1 ข้อเสนอให้ปรับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ออก

กรณีของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ดังกระหึ่มมาจากนักการ เมือง ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย เห็นตรงกัน

สมควรปรับออกจาก “เกษตร”

แต่กรณีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับมิได้ดังมาจากนักการเมือง

หากแต่ดังมาจาก “กลุ่มการเมือง”

เป็นกลุ่มการเมืองที่สังกัด “พันธมิตร”ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นกลุ่มการเมืองที่สังกัด”กปปส.”

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

สมควรให้ความสนใจ

สังเคราะห์ และ วิเคราะห์

ข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นปัญหาอันดำรงอยู่อย่างเป็นจริง

ไม่ว่าที่ “พาณิชย์” ไม่ว่าที่”เกษตร”

ข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับสะท้อนสภาพและลักษณะในทาง “การเมือง”

ต้องการ”วัดใจ”อย่างเป็นพิเศษ

วัดใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดอย่างไร วัดใจว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คิดอย่างไร

วัดใจสถานะของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทำไมนักการเมือง ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะจาก พรรคเพื่อไทย ไม่พุ่งเป้าเข้าใส่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เพราะรู้ว่า ไม่”เวิร์ก”

ถึงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ปฏิเสธบทบาทและ ความหมายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้

แต่ “กลุ่มการเมือง”คิดอีกอย่าง ไม่ว่าจะมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะมาจากกปปส.ล้วนคิดว่าพวกตนมีบุญคุณกับ “คสช.”และต้องการหยั่งเชิง วัดใจ

วัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะ”แน่”แค่ไหน

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน